สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นักวิจัยของ CSIS มีความกังวลว่า ยุทธศาสตร์ "ปรับสมดุลคืนสู่เอเชียแปซิฟิก" ของนายบารัก โอบามาประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั้น คงไม่อาจประกันผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ได้อีกต่อไปในภูมิภาคนี้
นายสวี จิ้นสมาชิกสภาชิกสังคมศาสตร์จีนกล่าวว่า มุนมองของสหรัฐฯ คือ จีนยังไม่ใช่ภัยคุกคามที่แท้จริงในปัจจุบัน แต่พร้อมๆ กับกำลังของจีนที่ค่อยๆ เข้มแข็งขึ้น จึงอาจจะมีภัยคุกคามแฝง สหรัฐฯ จึงเห็นว่า อิทธิพลของจีนนั้นอาจจะกระทบฐานะผู้นำของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ ซึ่งยุทธศาสตร์ที่สหรัฐฯ ใช้กับจีนมาโดยตลอดคือ "มีการติดต่อควบคู่กันไปกับากรสกัดกั้น" นายสวี จิ้นเปรียบเทียบยุทธศาสตร์ปรับสมดุลคืนสู่เอเชียแปซิฟิกของสหรัฐฯ เหมือนกับ "กล่องใส่เครื่องมือ" ซึ่งเครื่องมือชนิดต่างๆ ในกล่องก็มีไว้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามแฝงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
รายงานของ CSIS เห็นว่า แม้ว่านายโอบามาได้ใช้นโยบายบางอย่างเพื่อปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ "ปรับสมดุลคืนสู่เอเชียแปซิฟิก" ทว่านั่นก็ยังไม่พอ รายงานเสนอให้สหรัฐฯ เพิ่มความสำคัญต่อการปรับสมดุลทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเสียใหม่
นายหลิว หมิง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสภาสังคมศาสตร์นครเซี่ยงไฮ้เห็นว่า
ในอนาคต สหรัฐฯ อาจจะสร้างกลไกความร่วมมือกับประเทศอาเซียนและพันธมิตรในภูมิภาคนี้ และอาจจะออกข้อกำหนดใหม่ เพื่อต่อต้านปฏิบัติการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ในปัญทางหาทะเลของจีน แต่ขณะเดียวกัน จีนกับสหรัฐฯ ก็จะยังคงดำเนินความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนทางทหารต่อไป รวมถึงข้อตกลง TPP ที่ริเริ่มโดยสหรัฐฯ ซึ่งก็อาจจะกลายเป็นกลุ่มการค้าใหม่ของเอเชียแปซิฟิก เพื่อลดอิทธิพลทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของจีน
(Doon/Lin)