โดยวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา นาย เจน ฮัตซิวส์ (Jan Hatzius) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์กลุ่มบริษัทโกลด์แมน แซคส์กล่าวในกาประชุมฟอรั่มมหภาคซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งว่า เศรษฐกิจจีนชะลอความเร็วการเติบโต จนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้วไม่มาก เพราะว่า ด้านหนึ่ง ความเสี่ยงทางการค้าของจีนที่มีต่อสหรัฐฯ และประเทศยูโรโซนส่วนใหญ่ยังไม่มาก ประกอบกับ ความสัมพันธ์ของระบบการเงินระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และยุโรปก็ไม่มากเช่นกัน ดังนั้น เมื่อพิจารณาถึงด้านการค้าและการเงินแล้ว ตนเห็นว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนคงส่งผลกระทบกับต่างประเทศไม่มาก
สอดคล้องกับผลวิจัยจากทีมวิจัยการลงทุนทั่วโลกกลุ่มบริษัทโกลด์แมน แซคส์ที่ระบุว่า แม้ความต้องการด้านการบริโภคภายในจีนจะชะลอตัวลง 2% และเงินหยวนยังคงแนวโน้มลดค่าลงอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรปเพียง 0.2% - 0.3% เท่านั้น
ทว่านาย เอนดริว ทิลตัน (Andrew Tilton) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกลุ่มบริษัทโกลด์แมน แซคส์กล่าวในที่ประชุมว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน อาจส่งผลกระทบต่อประเทศเอเชียตะวันออกมากกว่า อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และไทย
สำหรับกระบวนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกช่วงหลายปีที่ผ่านมา นาย เจน ฮัตซิวส์เผยว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แท้จริงช่วงหลายปีที่ผ่านมายังไม่ถึงเป้าที่คาดไว้ ซึ่งทำให้เราผิดหวังต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แต่เขาก็ชี้ให้เห็นว่า การพิจารณาการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจควรต้องดูในหลายๆ องค์ประกอบ ทั้งตัวเลขจีดีพีและดัชนีอัตราการว่างงาน เขากล่าวว่า ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อัตราการว่างงานของกลุ่มจี 7 ลดน้อยลงมากที่สุดในช่วง 40 ที่ผ่านมา ซึ่งนี่อาจจะทำให้เราเห็นถึงแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก
(Doon/Lin)