สถานีวิทยุซีอาร์ไอรายงานว่า วันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา นายเยนส์ สตอลเตนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) แถลงที่กรุงบรัสเซลส์ เบลเยี่ยม ว่า เครื่องบินรบของรัสเซียลำหนึ่งล่วงล้ำน่านฟ้าของตุรกีเมื่อวันที่ 29 มกราคม ทั้งเรียกร้องตุรกีและรัสเซียมีการติดต่อประสานกัน รักษาความสงบเยือกเย็น เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น
คำแถลงยังระบุว่า นาโตสนับสนุนบูรณภาพเหนือดินแดนของตุรกี ซึ่งเป็นประเทศสมาชิกนาโต เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นาโตตัดสินใจจัดวางเครื่องบินเตือนภัย AWACS ที่ตุรกี เพื่อเสริมทักษะของตุรกีในการป้องกันภัยทางอากาศ
ด้านกระทรวงการต่างประเทศตุรกีออกแถลงการณ์วันที่ 30 มกราคมว่า ได้เรียกพบเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกีเมื่อค่ำวันที่ 29 มกราคม เพื่อประท้วงเครื่องบินรบรัสเซียละเมิดน่านฟ้าตุรกีในวันเดียวกัน แถลงการณ์ระบุว่า วันที่ 29 มกราคม เครื่องบินรบซู-34 ลำหนึ่งของรัสเซียล่วงล้ำน่านฟ้าตุรกี หน่วยเรดาร์ตุรกีส่งคำเตือนหลายครั้งด้วยภาษารัสเซียและอังกฤษ แถลงการณ์ยังระบุว่า พฤติกรรมละเมิดน่านฟ้าเช่นนี้จะทำให้เกิดผลที่ร้ายแรงมาก ซึ่งรัสเซียต้องรับผิดชอบทั้งหมด
ด้านโฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าววันที่ 30 มกราคมว่า เครื่องบินรัสเซียที่ปฏิบัติภารกิจในซีเรียไม่ได้ละเมิดน่านฟ้าตุรกี การกล่าวหาของตุรกีไม่มีหลักฐานใดๆ ทั้งสิ้น โฆษกรัสเซียยังกล่าวว่า เรดาร์จับได้แต่ข้อมูลด้านความสูง ความเร็ว และเส้นทางการบินของเครื่องบินเท่านั้น ไม่สามารถแยกสัญชาติและรุ่นของเครื่องบินได้
(YIM/cai)