เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา นายฟู่ ชง รักษาการหัวหน้าผู้แทนจีนประจำนครเจนีวากล่าวปราศรัยในหัวข้อเพิ่มขีดความสามารถด้านสาธารณสุขเพื่อส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในนาม 46 ประเทศในที่ประชุมครั้งที่ 31 ของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ โดยได้รับการสนับสนุนจากประเทศตะวันตกซึ่งรวมถึงสหภาพยุโรป และประเทศกำลังพัฒนา แสดงให้เห็นว่าจีนได้แสดงบทบาทสำคัญเชิงสร้างสรรค์ในคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
นายฟู่ ชงกล่าวว่า สุขภาพเป็นสิทธิมนุษยชนระดับพื้นฐาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการบรรลุซึ่งสิทธิมนุษยชนอื่นๆ ไม่ว่าคนใดก็ตาม ล้วนมีสิทธิ์ที่จะได้สุขภาพระดับสูงสุดเพื่อให้ดำรงชีวิตอย่างเป็นเกียรติ แต่ว่าโรคระบาดต่างๆ เช่น โรคเอดส์ อีโบลา วัณโรค มาลาเรียยังคงแพร่ระบาดอยู่ นอกจากนี้ยังมีโรคระบาดต่างๆ ที่นับวันเพิ่มความรุนแรงขึ้น เหตุการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และโรคต่างๆ ที่ไม่ใช่โรคระบาดก็เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ อัตราติดโรคและเสียชีวิตของเด็กก็ต้องให้ลดลงอีก ปัญหาที่กล่าวมานี้แสดงว่า ประเทศต่างๆ มีความต้องการทรัพยากรการรักษาพยาบาลอย่างสูง
นายฟู่ ชงระบุว่า ขณะนี้ ประเทศต่างๆ ให้บริการด้านสาธารณสุขไม่เท่าเทียมกัน มีความจำเป็นที่ต้องเพิ่มการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานด้านสังคมและสาธารณสุข เพื่อให้ผู้คนได้รับบริการด้านสาธารณสุข ข้อมูลข่าวสาร และการศึกษาเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะต้องขจัดการเลือกปฏิบัติต่อผู้ด้อยโอกาส
(Yim/cici)