วาระสำคัญของการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนปีนี้คือการพิจารณาผ่านแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจีนระยะ 5 ปีฉบับที่ 13 นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนให้ความสำคัญกับการร่างแผนพัฒนาฯฉบับดังกล่าว ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา โดยได้ดำเนินการทำการวิจัยศึกษาการร่างแผนฯ และกล่าวคำปราศรัยสำคัญเกี่ยวกับแผนฉบับนี้ในที่ประชุมคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์หลายครั้งระหว่างการประชุมสองสภาปีนี้ นายสี จิ้นผิงได้พบปะกับคณะผู้แทนสภาผู้แทนปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน 1 คณะ และคณะผู้แทนผู้แทนสภาประชาชนแห่งชาติจีนอีก 5 คณะ เพื่อชี้ทิศทางการพัฒนาของจีนในอนาคต
เศรษฐกิจภาคเอกชนของจีนเป็นกว่าร้อยละ 50 ของจีดีพีของประเทศ ภาษีจากภาคเอกชนสูงถึงร้อยละ 55 ของยอดภาษีทั้งหมด ได้แก้ปัญหาการมีงานทำร้อยละ 80 ตลอดจนสร้างตำแหน่งงานกว่าร้อยละ 90 แผนพัฒนาฯฉบับที่ 13 ระบุ ถึงการส่งเสริมวิสากิจเอกชนเข้าสู่ด้านต่างๆ มากยิ่งขึ้นตามกฎหมาย เพื่อกระตุ้นกำลังเศรษฐกิจที่ไม่ใช่ของรัฐ ในที่ประชุมสมาคมสถาปนาประชาธิปไตยจีนและสหพันธ์อุตสาหกรรมและพาณิชย์จีน นายสี จิ้นผิงกล่าวย้ำว่า เศรษฐกิจที่ไม่ใช่ของรัฐไม่ได้เปลี่ยนแปลงฐานะและบทบาทในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีน จีนต้องให้ความสำคัญกับการส่งเสริม สนับสนุนและกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจที่ไม่ใช่ของรัฐ และสร้างบรรยากาศอันดีและโอกาสมากขึ้นกับการพัฒนาเศรษฐกิจที่ไม่ใช่ของรัฐ ซึ่งเป็นความมั่นใจและคลายกังวลแก่นักวิสากิจเอกชน
หลังจากเขตบริหารพิเศษไต้หวันเปลี่ยนผู้นำคนใหม่ การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองฟากฝั่งช่องแคบไต้หวันอย่างสันติจะประสบการท้าทายครั้งประวัติศาสตร์อีกครั้ง ขณะพบปะกับคณะผู้แทนสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนจากนครเซี่ยงไฮ้ นายสี จิ้นผิงกล่าวย้ำฉันทามติ 1992 และ พื้นฐานการต่อต้านไต้หวันเป็นเอกราช ระบุว่า พี่น้องร่วมชาติสองฟากฝั่งมีความปราถนาร่วมกันที่จะผลักดันความสัมพันธ์และการพัฒนาอย่างสันติ เราจะไม่ทำให้พวกเขาผิดหวัง และจะไม่ยอมให้ประเทศถูกแบ่งแยกโดยเด็ดขาด คำกล่าวนี้เป็นทั้งคำมั่นและความรับผิดชอบอย่างหนักแน่นของผู้นำจีนที่มีต่อประวัติศาสตร์และประชาชน
Toon/kt