สำนักข่าวซินหวารายงานว่า เครื่องบิน FlyDubai ลำหนึ่งซึ่งบินจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไปยังเมืองรอสตอฟ ออน ดอน (Rostov on Don) ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของรัสเซียประสบอุบัติเหตุขณะแล่นลงจอดที่สนามบินเมืองดังกล่าว ผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องทั้งหมด 62 คนเสียชีวิต ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันสาเหตุของอุบติเหตุได้ ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ทัศนวิสัยที่เลวร้ายอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ
เมื่อเวลา 3.40 น. ของวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น เครื่องบินโบอิ้ง 737-800 เที่ยวบินที่ FZ981เป็นของสายการบิน FlyDubai ประสบอุบัติเหตุ ห่างจากสนามบินเมืองรอสตอฟ ออน ดอนประมาณ 250 เมตร
ศูนย์เหตุฉุกเฉินรัสเซียประจำรอสตอฟ ออน ดอนระบุว่า เครื่องบินลำนี้แล่นเลยรินเวย์และเกิดระเบิดไฟลุกไหม้ท่วมเครื่องบิน ส่งผลให้ชินส่วนกระจัดกระจายไปหลายทิศทาง ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงและกู้ศพผู้เสียชีวิตได้แล้วจำนวนหนึ่ง
สื่อมวลชนรัสเซียรายงานว่า เครื่องบินได้ลองทำการลงจอดครั้งแรกแต่ไม่สำเร็จ ครั้งที่ 2 ได้บินวนรอกลางอากาศประมาณ 2 ชั่วโมง 9 นาที ขณะแล่นลงจอดส่วนของหางเครื่องบินแตะพื้นก่อน เป็นเหตุให้เกิดการระเบิดขึ้น
นายวิคเทอร์ ยัตซูเซนโค ผู้อำนวยการศูนย์เหตุฉุกเฉินรัสเซียกล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีผู้โดยสารซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจำนวนทั้งสิ้น 55 คนในจำนวนนี้มีเด็ก 4 คน และมีลูกเรือ 7 คน
สถิติจากศูนย์เหตุฉุกเฉินรัสเซียพบว่า ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 62 คนส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซีย และยังมีชาวยูเครน สเปน อินเดีย และสาธารณรัฐคีร์กิซ ขณะที่กงสุลจีนประจำรัสเซียยืนยันว่า บนเครื่องบินลำนี้ไม่มีชาวจีน
สื่อมวลชนรัสเซียรายงานอีกว่า สาเหตุของโศกนาฎกรรมดังกล่าวอาจเป็นเพราะมาจากสภาพอากาศที่เลวร้าย หรือมีการดำเนินการที่ผิดพลาดของลูกเรือ หน่วยอุตุนิยมวิทยาท้องถิ่นประกาศว่า ขณะเกิดเหตุ สภาพอากาศแปรปรวน มีลมกรรโชกและฝนตกหนัก ทัศนวิสัยเลวร้าย ขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า สาเหตุที่เครื่องบินตกอาจเกิดจากกระแสลมแรงระดับทอร์เนโด
(Toon/cici)