ในฤดูร้อนที่ผ่านมา ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง "ราชาวานร วีรบุรุษกลับคืนมา" ได้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ทำรายได้จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์กว่า 900 ล้านหยวนในประเทศจีน ทำให้หนังเรื่องนี้ครองอันดับหนึ่งของภาพยนตร์การ์ตูนจีน พร้อมกันนั้น ความชื่นชอบร้องเชียร์ซุนหงอคงหรือฉีเทียนต้าเซิ่ง กลายเป็นกระแสนิยมใหม่ของชาวจีนทั่วประเทศและชาวต่างชาติเชื้อสายจีนหลายๆ ประเทศ รายการวันนี้จะพูดคุยเกี่ยวกับทำไมภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง "ราชาวานร วีรบุรุษกลับคืนมา" ประสบความสำเร็จอันงดงามเช่นนี้ได้
หลังจากหนังการ์ตูนเรื่องนี้เข้าฉายจอหนังไม่นาน ก็มีแฟนเน็ตเขียนไมโครบล็อกว่า "ถึงเวลาแล้วที่ราชาวานรของเราจะไปสร้างความน่าทึ่งและตื่นตาตื่นใจในทั่วโลกแล้ว" เฉพาะประโยคเดียวก็ได้รับการคลิกเครื่องหมายหัวใจ ซึ่งแสดงถึงความชื่นชอบจากแฟนเน็ตเกือบ 5 พันคน นี่สะท้อนให้เห็นถึงความปรารถนาอันแรงกล้าของแฟนคลับการ์ตูนจีนที่รอคอยให้จีนมีตัวการ์ตูนยอดเยี่ยมเป็นของตนเอง ขึ้นมาเคียงบ่าเคียงไหล่กับภาพลักษร์ตัวการ์ตูนของฮอลลีวู้ตหรือของญี่ปุ่นที่ชาวโลกหลงรักกันจากรุ่นสู่รุ่น
ในภาพยนตร์ ซุนหงอคงมีหน้ายาวแตกต่างกับราชาวานรหน้าหล่อในละครโทรทัศน์ไซอิ๋วอย่างที่ผู้ชมคุ้นเคย เนื่องด้วยสูญเสียอิทธิฤทธิ์ จึงกลายเป็นคนขาดความเชื่อมั่นและรู้สึกสับสนบ่อยๆ พระถังซัมจั๋งกลายเป็นเณรน้อยสุดน่ารัก ตือโป๊ยก่ายเมื่อรู้สึกกลัวก็จะกลายเป็นหมูน้อยสีชมพู การกล้าใช้จินตนาการปรับแต่งต้นฉบับไซอิ๋วให้เพิ่มความสนุกสนาน และสะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของการ์ตูนจีน ไม่เพียงแต่ให้เด็กๆ อิ่มเอิบเพลิดเพลินไปกับเรื่องเท่านั้น หากยังชนะใจผู้ใหญ่ได้ด้วยบุคลิกภาพของพระเอกที่ไม่ต่างกับคนในโลกที่แท้จริง
เถียน เสี่ยวเผิง ผู้กำกับของ "ราชาวานร วีรบุรุษกลับคืนมา" แนะนำว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวที่ใช้ความรักและความกล้าหาญพยายามทำความฝันให้เป็นจริง นี่เป็นคุณค่าสำคัญยิ่งที่ผู้ชมทั่วโลกเข้าใจได้ ตัวเขาเองต้องยืนบนไหล่ของยักษ์ผู้ยิ่งใหญ่ให้ได้ก่อน จึงจะสามารถสร้างหนังเรื่องนี้ได้สำเร็จ ยักษ์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ว่านี้ก็คือ ไซอิ๋ว วรรณคดีโบราณที่มีชื่อเสียงโด่งดังของจีน เป็นเหตุให้หนังการ์ตูนเรื่องนี้มีมนต์เสน่ห์ของจีนเพียงพอที่จะดึงดูดความสนใจของผู้ชมทั่วโลก
สำหรับเด็กและเยาวชนแล้ว เนื้อเรื่องของ "ราชาวานร วีรบุรุษกลับคืนมา" ย่อมเข้าใจได้ง่าย และเรียนรู้ได้จากหนังว่า ต้องเป็นคนมีความเชื่อมั่นและความรับผิดชอบ กล้าสู้ชีวิตเพื่อสิ่งที่มีคุณค่า สำหรับผู้ชมที่เป็นผู้ใหญ่ การเข้าเชียร์ฉีเทียนต้าเซิ่งในโรงหนัง มีส่วนช่วยรื้อฟื้นความทรงจำแสนงามในวัยเด็ก และได้รับความผ่อนคลายสนุกสนานร่วมกับลูกๆ ด้วย
ไซอิ๋วนับเป็นงานวัฒนธรรมคลาสสิคของจีนที่มีชื่อเสียงเลื่องลือทั่วโลก ดังนั้น การปรับแต่งนิทานไซอิ๋วเพื่อเขียนบทละครของหนังการ์ตูนให้ผู้ชมทุกเพศทุกวัยชื่นชอบนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ทีมงานผู้ผลิตยึดหลักเคารพต้นฉบับไซอิ๋ว และมุ่งมั่นสร้างความเชื่อมั่นในการ์ตูนจีนให้ได้จากศิลปวัฒนธรรมจีนอันรุ่งโรจน์ อดทนต่อสู้ต่อเนื่องกัน 8 ปีเพื่อสร้างภาพพจน์ "วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของชาติจีนเอง"
ในช่วง 8 ปีการเตรียมการและผลิตหนัง เถียน เสี่ยวเผิงและลูกทีมทุ่มเทความตั้งใจในการถ่ายทำทุกช็อต พิถีพิถันในทุกรายละเอียดเพื่อสร้างภาพการ์ตูนที่วิจิตรประณีต ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคนิคพิเศษ ภาพสามมิติ การจัดวางองค์ประกอบในภาพ เฉดสี หรือระดับความลื่นไหลของการดำเนินเรื่องภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้ ล้วนแล้วแต่ยอดเยี่ยมเกินคาด สะท้อนให้เห็นถึงเทคนิคการทำหนังการ์ตูนระดับสูงของบริษัทจีน ซึ่งใกล้เคียงกับบริษัท Disney และบริษัท Dreamwork ของฮอลลีวู้ด
การจำหน่ายลิขสิทธิ์ของ "ราชาวานร วีรบุรุษกลับคืนมา" ในช่วงเทศกาลภาพยนตร์คานส์ประจำปี 2015 ได้สร้างสถิติสูงสุดของภาพยนตร์การ์ตูนจีน หลังชมหนังเรื่องนี้เสร็จในงานเทศกาลภาพยนตร์คานส์ Andrew Mason ผู้ผลิตชื่อดังของฮอลลีวู้ดเจ้าของผลงานภาพยนตร์ "The Matrix (เดอะ เมทริกซ์ : เพาะพันธุ์มนุษย์เหนือโลก 2199)" และ "Silent Hill (เมืองห่าผี)" กล่าวชื่นชมว่า ไม่น่าเชื่อว่าทีมงานระดับเอกของฮอลลีวู้ดไม่ได้มีส่วนร่วมในการผลิตสุดยอดอนิเมชั่นเรื่องนี้
เขามั่นใจว่า ถ้าให้บริษัทอนิเมชั่นฮอลลีวู้ดสร้างหนังเรื่องนี้ขึ้น ต้นทุนต้องไม่ต่ำกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นแน่ เขาบอกว่า ซุนหงอคงมีชื่อเสียงทั่วโลก ไซอิ๋วเป็นวรรณกรรมสุดยอด เขาขอชื่นชมทีมงานผลิตของจีนที่นำเสนอภาพยนตร์การ์ตูนยอดเยี่ยมเช่นนี้ ทำให้เด็กๆ กับผู้ใหญ่ดูอย่างเพลิดเพลินไปพร้อมกันได้ และประทับใจกับวัฒนธรรมจีนที่สะท้อนออกมาผ่านฉากหนังการ์ตูนแสนวิเศษเรื่องนี้
ความสำเร็จของ "ราชาวานร วีรบุรุษกลับคืนมา" ยืนยันให้เห็นว่า ภาพยนตร์ของจีนเองที่มีนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจ ใช้เทคนิคพิเศษที่น่าทึ่ง และใส่ความจริงใจในทุกขั้นตอนการผลิต สามารถสร้างปรากฏการณ์มหัศจรรย์ให้เกิดขึ้นในตลาดหนังภายในได้ โกยรายได้และเสียงเชียร์ล้นหลามไม่แพ้ผลงานฮอลลีวู้ดที่ต้องทุ่มทุนผลิตจำนวนมหาศาล ที่สำคัญกว่านั้นคือ ค่านิยมถูกต้องและสิ่งดีงามที่แฝงอยู่ในภาพยนตร์จีน ทำให้ผู้ชมจีนรู้สึกใกล้ชิดและคุ้นเคยกว่าหนังต่างชาติ ย่อมจะนำไปปรับประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้โดยธรรมชาติ นี่เป็นคุณค่าของภาพยนตร์ที่ดี
นักวิเคราะห์จากวงการวัฒนธรรมเห็นว่า การที่ภาพยนตร์การ์ตูนของ "ฉีเทียนต้าเซิ่ง -ซุนหงอคง" เป็นที่นิยมชื่นชอบอย่างมากของทั้งเด็กและผู้ใหญ่นั้นแสดงให้เห็นว่า ถ้ามุ่งมั่นบุกเบิกพัฒนาคุณค่าของตัวละครคลาสสิกจากวัฒนธรรมของตนเองที่สืบทอดต่อกันมา อุตสาหกรรมการ์ตูนของจีนย่อมจะมีอนาคตอันสดใสไม่แพ้ภาพยนตร์การ์ตูนต่างชาติ
พิจารณาจากรายได้จากการเข้าฉายในโรงหนังแล้ว อุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนนับวันครองส่วนแบ่งได้สูงขึ้นในตลาดภาพยนตร์ของโลก เมื่อปี 2003 จีนมีรายได้จากการเข้าฉายในโรงหนังเพียง 1,000 ล้านหยวน ทว่า ในปี 2015 พุ่งสูงเป็น 29,600 ล้านหยวน เท่ากับว่าได้รักษาอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีในระดับ 35% ต่อเนื่องกัน 12 ปี ขณะนี้จีนได้กลายเป็นตลาดภาพยนตร์ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกแล้ว
สิ่งที่น่าเสียดายคือ วงการภาพยนตร์จีนไม่ได้รับแรงบันดาลใจมากพอจากอารยธรรมอันรุ่งโรจน์ของประเทศ ภาพยนตร์การ์ตูนจีนจึงไม่สามารถสร้างตัวการ์ตูนที่มีอิทธิพลระดับโลกขึ้นมาได้ แฟนคลับการ์ตูนในจีนหันไปเกาะติดกับมิกกี้เมาส์ โดราเอมอน หรือยอดมนุษย์อย่างซุปเปอร์แมน เป็นต้น คราวนี้ ฉีเทียนต้าเซิ่งสุดเจ๋งในหนัง "ราชาวานร วีรบุรุษกลับคืนมา" จึงได้รับการยกย่องชื่นชมในวงกว้างว่าเป็น "ซูเปอร์ฮีโร่การ์ตูนจีน" คนแรกที่ยืนขึ้นบนเวทีโลก
อย่าเข้าใจผิดว่า "กังฟูแพนด้า" กับ "มู่หลาน" ที่แฟนคลับทั่วโลกคุ้นเคยกันดีเป็นการ์ตูนสัญชาติจีน เพราะที่จริงแล้วผู้สร้างเป็นชาติอเมริกัน ด้วยเหตุที่ฮอลลีวู้ดให้ความสำคัญพิเศษต่อตลาดภาพยนตร์จีน จึงตั้งใจคัดสรรตำนานเรื่องเล่าที่แพร่หลายกันอย่างดีในจีนมาสร้างภาพยนตร์เพื่อตีตลาดจีนให้ได้ ดังนั้น ภาพยนตร์ "กังฟูแพนด้า" และ "มู่หลาน" จึงเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของจีน แต่บุคลิกภาพของตัวนำจะเป็นแบบชาวอเมริกัน การที่หนังการ์ตูน 2 เรื่องดังกล่าวประสบความสำเร็จในประเทศจีนแสดงให้เห็นว่า ฮอลลีวู้ดถนัดการใช้วัฒนธรรมประเทศเป้าหมายเผยแพร่ค่านิยมของสหรัฐฯ เอง
ผู้กำกับเถียน เสี่ยวเผิงของ "ราชาวานร วีรบุรุษกลับคืนมา" เห็นว่า ภาพยนตร์การ์ตูนจีนที่ดี ต้องมีคุณสมบัติด้านการให้ความบันเทิงเหมือนกับหนังทั่วไปก็จริง แต่ก็ยิ่งควรเชิดชูเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมจีน วรรณกรรมไซอิ๋วสะท้อนถึงความเลื่อมใสศรัทธา ความจงรักภักดี ความขยันหมั่นเพียร ความเสียสละและความกล้าหาญ ล้วนแล้วแต่มีคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับการดำรงชีวิต ในกระบวนการปรับแต่งบทละครและสร้างภาพลักษณ์ตัวการ์ตูน เขาและทีมงานพยายามทุกอย่างเพื่อนำเสนอสิ่งมีคุณค่าดังกล่าวให้ผู้ชมได้เห็นผ่านหนังอย่างเต็มที่
เถียน เสี่ยวเผิงกล่าวว่า คนจีนรุ่นเขาเติบโตขึ้นมาพร้อมมีซุนหงอคงเป็นขวัญใจ เด็กจีนไม่มีใครปฏิเสธว่าเคยได้กำลังใจจากขวัญใจผู้นี้ วัตถุประสงค์ที่สร้างหนังการ์ตูนซุนหงอคงคือ อยากให้ฉีเทียนต้าเซิ่งกลับมาอยู่เป็นเพื่อนกับเด็กๆ รวมทั้งลูกชายเขาเองในกระบวนการเติบโต ให้เด็กๆ เรียนรู้ความรักและความกล้าหาญจากฉีเทียนต้าเซิ่ง "ซูเปอร์ฮีโร่" ของจีนเอง
วงการวิจัยภาพยนตร์ในปัจจุบันเห็นว่า IP หรือ ทรัพย์สินทางปัญญาของภาพยนตร์หมายถึง รูปภาพของตัวเอก เรื่องราวในบทภาพยนตร์ หรือเพลงประกอบภาพยนตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของภาพยนตร์เรื่องใดเรื่องหนึ่ง เป็น IP ทางวัฒนธรรมที่ภาพยนตร์เรื่องเดียวหลายภาคค่อยๆ นำมาปลูกฝังเข้าสมองผู้ชมในเวลาหลายปี สะท้อนถึงค่านิยมและวัฒนธรรมของประเทศผู้ถ่ายทำ
ซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Optimus Prime ในหนัง "Transformers" และ Iron Man ในหนัง "The Avengers" จนกระทั่ง "โดราเอมอน" ฯลฯ ล้วนเป็น IP วัฒนธรรมที่แพร่หลายไปพร้อมกับภาพยนตร์ที่ปรากฏให้เห็นทั่วไปหมด จริงๆ แล้ว ในวรรณกรรมอมตะที่สืบทอดจากสมัยโบราณของจีน อุดมไปด้วย IP วัฒนธรรมที่มีคุณค่าสูง เช่น "สามก๊ก" "ซ้องกั๋ง" และ "ความฝันในหอแดง" บันทึกไว้ซึ่งวัฒนธรรมและค่านิยมยอดเยี่ยมของจีน แต่รอคอยผู้กำกับที่มีวิสัยทัศน์นำไปเผยแพร่ให้ผู้ชมทั่วโลกเห็นเท่านั้น
ในยุคสมัยแห่งสารสนเทศ ความสามารถในการเผยแพร่ IP วัฒนธรรมผ่านภาพยนตร์นั้น เป็นตัววัดอำนาจอ่อนด้านวัฒนธรรม(cultural soft power)ของทุกประเทศ เพราะ IP วัฒนธรรมในภาพยนตร์สามารถทำให้ผู้ชมเข้าใจวัฒนธรรมด้วยความประทับใจอันลึกซึ้ง หวังเป็นอย่างยิ่งว่า มหาเทพวานร "ฉีเทียนต้าเซิง" จะกลายเป็นหนึ่งใน IP วัฒนธรรมที่มีพลังชีวิตยืนยาวของจีน เดินทางข้ามพรมแดนไปสร้างความประทับใจในทั่วโลก และประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมจีนได้อย่างดียิ่งขึ้น