นายหยาง เป่าหยุน นักวิชาการจากสถาบันปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เห็นว่า ไทยมีความได้เปรียบทั้งทางที่ตั้งและการเมือง กล่าวได้ว่าเป็นประเทศเสาหลักของกลไกความร่วมมือแม่น้ำล้างช้าง-แม่น้ำโขง การจัดตั้งกลไกความร่วมมือฯ และดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพนั้น ย่อมจะสร้างเวทีความร่วมมือใหม่แก่ไทยกับจีน โดยในระหว่างการกำหนดและปฏิบัติตามกลไกความร่วมมือฯ ควรเน้นความร่วมมือในทุกด้าน ดำเนินการสร้างโครงสร้างพื้นฐานและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศและภาคเอกชนควบคู่กันไป ก้าวสำคัญต่อจากนี้ คือการทำให้เป็นจริง เพื่อสร้างความผาสุกแก่ประชาชนบริเวณลุ่มแม่น้ำโขง
นายทาง จือหมิ่น ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยจีน-อาเซียนสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์เห็นว่า กลไกความร่วมมือฯ นอกจากจะมีส่วนส่งเสริมและเกื้อหนุนต่อกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศที่มีอยู่ในปัจจุบัน ยังมีความได้เปรียบและความหมายพิเศษเฉพาะ นับเป็นกลไกประสานงานที่ร่วมกันจัดตั้งโดย 6 ประเทศริมแม่น้ำล้างช้าง-แม่น้ำโขง การตัดสินใจและปฏิบัติตามนโยบายจะสะท้อนให้เห็นถึงผลประโยชน์และความต้องการของประเทศลุ่มแม่น้ำ กลไกความร่วมมือดังกล่าว จะช่วยแก้ปัญหาในด้านต่างๆ อย่างจริงจัง รวมทั้งโครงการพื้นฐานของประเทศต่างๆ เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงระหว่างจีนกับไทย โครงการสร้างเครือข่ายไฟฟ้าระหว่างจีนกับลาว นอกจากนี้ ยังรวมถึงการหารือด้านเส้นทางเดินเรือ และการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำตามหลักวิทยาศาสตร์
นายตัน เวียด ไทย รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยนโยบายการทูตและยุทธศาสตร์สถาบันการทูตเวียดนามกล่าวว่า กลไกความร่วมมือแม่น้ำล้างช้าง-แม่น้ำโขงจะส่งเสริมให้ประเทศทั้งต้นและปลายแม่น้ำร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อมูลและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมให้ประเทศต่างๆ ดำเนินความร่วมมือในด้านโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม โลจิสติกส์และพลังงานการผลิต ลดช่องว่างการพัฒนาระหว่างประเทศลุ่มแม่น้ำโขงกับประเทศอาเซียนอื่นๆ ทั้งยังจะเป็นสัญลักษณ์แห่งความร่วมมืออาเซียน-จีนและความร่วมมือระหว่างประเทศอาเซียนที่ไม่ติดทะเลกับจีน
Toon/Ping
