สำนักข่าวซินหวารายงานว่า วันที่24 มีนาคมที่ผ่านมา นายหลี่ เป่าตง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทวงการต่างประเทศจีนกล่าวกับสื่อมวลชนว่า นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนจะเดินทางเยือนประเทศสาธารณรัฐเช็ก อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 28—30 มีนาคมนี้ ตามคำเชิญของประธานาธิบดี มิลอส เซมาน แห่งสาธารณรัฐเช็ก หลังจากนั้น จะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตัน เพื่อร่วมการประชุมสุดยอดความมั่นคงทางนิวเคลียร์ และพบเจรจากับนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ นับเป็นการพบเจรจาระหว่างผู้นำจีน-สหรัฐฯครั้งแรกในปีนี้ ทั้งสองฝ่ายจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทั้งประเด็นระดับภูมิภาคและระดับโลก รวมถึงปัญหานิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีด้วย การพบปะระหว่างผู้นำจีน-สหรัฐฯครั้งนี้มีความหมายสำคัญยิ่งต่อการขับเคลื่อนการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯให้มั่นคงยิ่งขึ้น จีนและสหรัฐฯ จะร่วมกันใช้ความพยายามให้การพบเจรจาระหว่างผู้นำสองประเทศ และการประชุมสุดยอดความมั่นคงทางนิวเคลียร์ประสบความสำเร็จ
นายหลี่ เป่าตง ยังกล่าวอีกว่า ประเด็นหลักของการประชุมสุดยอดความมั่นคงทางนิวเคลียร์ครั้งนี้คือ " เสริมความมั่นคงทางนิวเคลียร์ระหว่างประเทศ " หลังเสร็จสิ้นการประชุม จะออกแถลงการณ์ร่วม และแผนปฏิบัติการ 5 ฉบับ
นับเป็นครั้งที่ 2 ที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงร่วมการประชุมสุดยอดความมั่นคงทางนิวเคลียร์ ภายหลังร่วมกาปรระชุมดังกล่าวครั้งแรกที่กรุงเฮก (The Hague)ประเทศเนเธอร์แลนด์
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุม โดยจะบรรยายสรุปนโยบายและข้อคิดเห็นของจีนในการสร้างความมั่นคงทางนิวเคลียร์ระหว่างประเทศในลักษณะที่มีความเที่ยงธรรม ร่วมมือกัน และได้ชัยชนะร่วมกัน อีกทั้งให้ข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงทางนิวเคลียร์ที่เร่งด่วน ตลอดจนแนะนำมาตรการใหม่ และความคืบหน้าของจีนในการเสริมความมั่นคงทางนิวเคลียร์ จีนยังจะยื่นรายงานความคืบหน้าด้านความมั่นคงทางนิวเคลียร์ของประเทศต่อที่ประชุมครั้งนี้ด้วย
การประชุมสุดยอดความมั่นคงทางนิวเคลียร์มีเป้าประสงค์ที่จะส่งเสริมความมั่นคงทางนิวเคลียร์ระหว่างประเทศ ป้องกันและปราบปรามการก่อการร้ายด้วยนิวเคลียร์ การประชุมสุดยอดความมั่นคงทางนิวเคลียร์ครั้งแรกจัดที่กรุงวอชิงตัน เมื่อเดือนเมษายน ปี 2010
นายหลี่ เป่าตง กล่าวว่า ปัจจุบัน สถานการณ์ด้านความมั่นคง และการต่อต้านการก่อการร้ายระหว่างประเทศนับวันมีความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ภัยคุกคามจากการใช้นิวเคลียร์ของลัทธิก่อการร้ายจะดำรงอยู่เป็นระยะยาว การประชุมสุดยอดความมั่นคงทางนิวเคลียร์ครั้งนี้จะส่งผลสำคัญต่อกระบวนการเสริมความมั่นคงทางนิวเคลียร์ระหว่างประเทศ จะส่งสัญญาณที่ชัดเจนสู่ทั่วโลกว่า ประชาคมโลกจะเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงทางนิวเคลียร์ให้เข้มแข้งยิ่งขึ้น
นายหลี่ เป่าตง กล่าวส่งท้ายว่า จีนหวังว่า จากการใช้ความพยายามร่วมกัน การประชุมครั้งนี้จะบรรลุเป้าหมาย 4 ประการดังนี้ ประการแรก เกิดความคิดเห็นตรงกันในการเสริมความมั่นคงทางนิวเคลียร์ ประการที่ 2 พัฒนาทักษะของประเทศต่างๆ ในการเสริมความมั่นคงทางนิวเคลียร์ และให้ทุกประเทศปฏิบัติตามพันธกรณีและคำมั่นสัญญาทางการเมืองด้านความมั่นคงทางนิวเคลียร์ ประการที่ 3 ขับเคลื่อนความร่วมมือด้านความมั่นคงทางนิวเคลียร์ต่อไป และประการสุดท้าย เผยแพร่วัฒธรรมความมั่นคงทางนิวเคลียร์ไปยังทั่วโลก
(IN/cai)