สำนักข่าวซินหวารายงานว่า เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ในที่ประชุมสุดยอดความมั่นคงทางนิวเคลียร์ครั้งที่ 4 ที่กรุงวอชิงตัน นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนกล่าวคำปราศรัยสำคัญในหัวข้อ "เสริมสร้างระบบความมั่นคงทางนิวเคลียร์ระหว่างประเทศ ผลักดันการบริหารความมั่นคงทางนิวเคลียร์ของโลก" ได้ชี้แจงถึงจุดยืนและนโยบายของจีนอย่างรอบด้านเกี่ยวกับการพัฒนาระบบความมั่นคงทางนิวเคลียร์ระหว่างประเทศเพื่อความยุติธรรม ความร่วมมือและได้ผลประโยชน์ร่วมกัน พร้อมอธิบายถึงผลคืบหน้าของจีนในการรักษาความมั่นคงทางนิวเคลียร์ และมาตรการเพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการทั่วโลกต่างแสดงทัศนะว่า คำปราศรัยของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้เน้นถึงความสำคัญของการเสริมสร้างระบบความมั่นคงทางนิวเคลียร์ระหว่างประเทศ จากประเด็น " ภาระหน้าที่ระหว่างประเทศ " และ " การกระทำของจีน " ซึ่งความร่วมมือด้านความมั่นคงทางนิวเคลียร์ระหว่างจีน - สหรัฐฯได้รับความสนใจอย่างสูง
นาย เท็ด กาเลน คาร์เพนเตอร์ ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันคาโต ซึ่งเป็นคลังภูมิปัญญาที่มีชื่อเสียงของประเทศสหรัฐฯกล่าวว่า เขาชื่นชมข้อเสนอและจุดยืนของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในการปราบปรามการก่อการร้ายด้วยอาวุธนิวเคลียร์ และเห็นพ้องกับคำอภิปรายของนายสี จิ้นผิงที่ต้องให้ความสำคัญต่อการแพร่กระจายข้อมูลเกี่ยวกับวัสดุนิวเคลียร์
นายหลี่ เหรินเหลียง นักวิชาการด้านปัญหาระหว่างประเทศจากสถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์(นิด้า)ของไทยว่า คำปราศรัยสำคัญของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้บ่งบอกความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารภายในประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศในขอบเขตความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้เน้นถึงความสมดุลระหว่างความสามารถและความรับผิดชอบ สิทธิและหน้าที่ ขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของจีนในการร่วมบริหารจัดการนิวเคลียร์ทั่วโลก นายหลี่ เหริน เหลียงกล่าวว่า จีนได้เรียกร้องความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ การใช้พลังนิวเคลียร์อย่างสันติและต่อต้านภัยคุกคามของนิวเคลียร์ในทุกรูปแบบมาโดยตลอด การที่จีนส่งเสริมการสร้างระบบความมั่นคงด้านนิวเคลียร์นั้น ได้แสดงถึงหลักการ "พัฒนาอย่างสันติ มุ่งสู่สันติภาพเพื่อการพัฒนา" ของจีน
( Yim/Zi )