ในความคิดของคนทั่วไป เรือสำราญเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา และชีวิตอันแสนสุขสบาย ด้วยค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง มนุษย์เงินเดือนทั่วไปคงไม่ค่อยได้มีโอกาสสัมผัสกับประสบการณ์เหล่านี้นัก ลองมาฟังอีกหนึ่งมุมมองของบริกรหญิงบนเรือสำราญกันบ้าง รับรองว่าต้องมีคนตาลุกวาว และคิดในใจว่า งานนี้มันที่สุดของโลกจริงๆ

Sarah Begbie บริกรหญิงบนเรือสำราญลำหนึ่งเล่าว่า เธอมีโอกาสท่องเที่ยวไปในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ฟรีขณะทำงาน อาหารการกินบนเรือก็อร่อยมาก ผู้โดยสารทานอะไร เธอก็ทานอันนั้น แม้แต่กระทั่งเนื้อโกเบญี่ปุ่นที่ราคาแพงหูฉี่

ไม่เพียงได้สัมผัสกับอาหารชั้นยอด รายได้จากงานก็เป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง นางสาว Bethany Silcox บริกรอีกคนหนึ่งเล่าว่า เธอได้เงินเดือน 4,000 ยูโร คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 150,000 บาท ยังไม่รวมทิปส์ที่ลูกค้าให้มาอีกตั้งเท่าไหร่ ที่พิเศษกว่านั้นคือ เธอยังมีวันหยุดปีละถึง 60 วันโดยที่ไม่มีการหักเงินด้วย

สิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดคือ ทุกสถานที่เรือสำราญเดินทางไปถึงต่างก็เป็นสวรรค์บนดินทั้งนั้น ขณะลูกค้ามีความสุขกับทิวทัศน์ที่สวยงาม บริกรบนเรือทุกคนก็สามารถร่วมคืนค่ำตามไปด้วยได้ นางสาว Bethany Silcox บอกว่า นี่เป็นสาเหตุสำคัญที่สุดที่เธอเลือกงานนี้ เธอทำงานที่นี่ได้ 3 ปีแล้ว และหวังจะบรรลุความฝันเที่ยวทั่วโลกด้วยการทำงานบนเรือดังกล่าว เพราะนี่เป็นวิธีการที่ประหยัดเงินมากที่สุด

เธอยังบอกว่า พนักงานกว่า 30 คนบนเรือนั้น เปรียบเหมือนกับครอบครัวใหญ่ เมื่อถึงวันเกิดของใครคนใดคนหนึ่ง เพื่อนๆทุกคนก็จะฉลองพร้อมกัน ลูกค้าส่วนใหญ่เมื่อทราบก็ยังจะให้ทิปส์อีกจำนวนมาก เธอเองก็เคยได้รับนาฬิกาข้อมือ "อาร์มานี่" จากลูกค้าเป็นของขวัญวันเกิด

แต่อย่างไรก็ตาม ชีวิตการทำงานบนเรือก็ไม่ได้น่าพอใจไปเสียทุกอย่าง เช่น ห้องนอนของพวกเขานั้นมีขนาดเล็กมาก บริกรส่วนใหญ่จึงนิยมพักผ่อนบริเวณดาดฟ้า ยิ่งเมื่อได้ชื่อว่า งานบริการบางทีก็ต้องเตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง การส่งอาหารมื้อค่ำให้ลูกค้าหลังเที่ยงคืนแทบจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพวกเขา แต่ทว่านั่นก็ไม่สามารถลดทอนช่วงดีๆในชีวิตไปได้

Toon/Sun