นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ แกนนำกลุ่มสนับสนุนให้อังกฤษอยู่ในสหภาพยุโรปเขียนบทความลง นสพ.เดอะซันเดย์เทเลกราฟ ฉบับวันที่ 19 มิถุนายนนี้ว่า การแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปจะเป็นความผิดมหาศาล ขณะนี้ อังกฤษกำลังเผชิญกับทางแยกว่า หากลงคะแนนสนับสนุนให้อังกฤษออกจากอียู อังกฤษจะไม่มีโอกาสกลับเข้าอียูอีก และจะตกอยู่ในภาวะอ่อนแอ และเต็มไปด้วยปัจจัยที่ไม่แน่นอนเป็นเวลาอย่างน้อย 10 ปี ขณะที่นายไมเคิล โกฟ รมว.ยุติธรรมของอังกฤษ แกนนำกลุ่มสนับสนุนให้อังกฤษแยกตัวออกจากอียูกล่าวกับผู้สื่อข่าว นสพ.เดอะ ซันเดย์ เทเลกราฟว่า หลังออกจากอียู อังกฤษก็จะกลายเป็นประเทศที่เสมือนเป็นประภาคารแห่งความก้าวหน้า เขาเรียกร้องชาวอังกฤษโหวตสนับสนุนให้อังกฤษออกจากอียู เพื่อประชาธิปไตย และความก้าวหน้า
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนนี้ ก่อนทำการประชามติเพียงหนึ่งสัปดาห์ นางโจ คอกซ์ ส.ส.พรรคแรงงาน วัย 41 ปีถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตระหว่างลงพื้นที่พบปะประชาชน เพื่อรณรงค์สนับสนุนให้อังกฤษอยู่ในอียู หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องสงสัยชายวัย 50 กว่าปีคนหนึ่ง ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งทำการสอบสวนเหตุดังกล่าว
เหตุครั้งนี้ทำให้ประชาชนทั่วประเทศอังกฤษตกตะลึง กลุ่มสนับสนุนให้อังกฤษอยู่ และกลุ่มสนับสนุนให้อังกฤษออกจากอียูต่างยุติการรณรงค์ทันที นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษยกเลิกกำหนดการเดิมที่จะไปกล่าวปราศรัยในงานรณรงค์สนับสนุนให้อังกฤษอยู่ในอียูที่ยิบรอลตาร์ (Gibraltar) และแสดงความห่วงใยกับคนในครอบครัวของ นางโจ คอกซ์ ผู้ประสบเคราะห์ร้าย สำหรับกลุ่มสนับสนุนให้อังกฤษออกจากอียูก็ยุติกิจกรรมรณรงค์เช่นกัน
ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศกล่าวว่า เหตุการณ์นางโจ คอกซ์ ส.ส.อังกฤษถูกยิงเสียชีวิตเป็นเหตุโศกนาฏกรรม กองทุนการเงินระหว่างประเทศตัดสินเลื่อนการประกาศรายงานเกี่ยวกับผลกระทบจากเรื่องอังกฤษแยกตัวออกจากอียู ซึ่งรัฐบาลอังกฤษก็เข้าใจและเห็นด้วยกับการตัดสินนี้
นักวิชาการหลายคนของอังกฤษเห็นว่า เหตุใช้ความรุนแรงครั้งนี้เป็นเรื่องไม่ปกติในแวดวงการเมืองของอังกฤษ เพราะแทบไม่เคยเกิดเหตุใช้ความรุนแรงทางการเมืองที่อังกฤษ ผู้ก่อเหตุครั้งนี้อาจมีเป้าประสงค์ที่จะให้มีผลกระทบถึงผลการขอประชามติ
นักวิเคราะห์หลายคนเห็นว่า เหตุการใช้ความรุนแรงครั้งนี้อาจทำให้ประชาชนจำนวนหนึ่งหันมาสนับสนุนให้อังกฤษอยู่ในอียู (YIM/cai)