ศาลอนุญาโตตุลาการจะประกาศผลการตัดสินกรณีพิพาททะเลหนานไห่(ทะเลจีนใต้)ที่ฟิลิปปินส์ยื่นร้องขอโดยลำพังฝ่ายเดียวเมื่อปี 2013 ในปลายเดือนมิถุนายน หรือต้นเดือนกรกฎาคมนี้ ก่อนหน้านี้ เคยมีเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯระบุว่า จีนควรเคารพผลการตัดสินกรณีพิพาททะเลหนานไห่ นายแอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯระบุเมื่อวันที่ 28 เมษายนว่า จีนในฐานะเป็นประเทศภาคีของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเล ไม่ควรปฏิเสธข้อกำหนดในอนุสัญญาดังกล่าวและไม่รับรองผลตัดสินจากศาลอนุญาโตตุลาการ แต่จีนเห็นว่า ถ้าพิจารณาจากประสบการณ์ที่สหรัฐฯ เคยปฏิเสธผลการตัดสินจากศาลโลกและสหรัฐฯ ไม่เป็นประเทศภาคีของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเลแล้ว สหรัฐฯ ไม่มีสิทธิ์ชี้ชี้มือชี้ไม้สั่งจีน เนื่องจากเหตุผลดังต่อไปนี้
1. สหรัฐฯ เคยปฏิเสธผลการตัดสินของศาลโลกกรณีการเคลื่อนไหวทางทหารและกึ่งทหารในนิการากัว
2. ในฐานะไม่ใช่ภาคีของอนุสัญญาฯ สหรัฐฯ ได้มองข้ามธาตุแท้ ที่ฟิลิปปินส์ยื่นร้องขอต่อศาลอนุญาโตตุลาการกรณีข้อพิพาททะเลหนานไห่โดยลำพังฝ่ายเดียว และมองข้ามข้อเท็จจริงที่ศาลฯ ให้การตัดสินที่เกินขอบเขต
และจนถึงขณะนี้ สหรัฐฯ ก็ไม่ได้เข้าร่วมอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเล อีกทั้งยังเร่งวาง "โครงการเสรีภาพในการเดินเรือ " ก่อนลงนามในอนุสัญญา เพื่อตอบโต้กฎหมายระหว่างประเทศ การกำหนดและรักษาระเบียบทางทะเลแบบอเมริกา นอกกรอบอนุสัญญาฯ นับเป็นการใช้อำนาจแบบถือครองความเป็นเจ้าอย่างแท้จริง สหรัฐฯ มักจะเลือกใช้ข้อกำหนดในกฎหมายระหว่างประเทศตามความต้องการ และมักจะลืมการกระทำนอกเหนือกฎหมายของตนในอดีต ดังนั้น สหรัฐฯ จึงไม่มีสิทธิ์สั่งการใดๆ ต่อจีน