เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงเกษตรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม 10 หน่วยงานร่วมกันประกาศแผนทดลองพักการเพาะปลูกชั่วคราวในพื้นที่มีปัญหาดินทรุด ดินและน้ำถูกปนเปื้อนจากโลหะหนักและสิ่งแวดล้อมถูกทำลายอย่างหนัก โดยพื้นที่ที่มีปัญหาดินทรุดส่วนใหญ่อยู่ในมณฑลเหอเป่ย เช่น เมืองชางโจว เมืองเหิงสุ่ยและเมืองสิงไถ ซึ่งล้วนเป็นพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำอย่างหนัก หลังจากทดลองหยุดพักการเพาะผลูกในฤดูหนาวมาหลายปี ปลูกแต่พืชตามฤดูกาลที่มีน้ำฝนค่อนข้างมาก เช่น ข้าวโพด มั่นฝรั่งและถั่วชนิดต่างๆ จึงสามารถลดการใช้น้ำใต้ดินได้ค่อนข้างมาก

สำหรับพื้นที่ที่มีปัญหาดินปนเปื้อนโลหะหนักอย่างหนัก เช่น เมืองฉางซา เมืองจูโจวและเมืองเซียงถานในมณฑลหูหนาน โรงงานที่เป็นแหล่งเกิดมลพิษต้องรับผิดชอบเรื่องการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม รวมทั้งออกค่าใช้จ่ายเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นพิษและชดใช้ความเสียหายที่เกิดจากการพักการเพาะปลูก สำหรับพื้นที่ที่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าใครเป็นฝ่ายก่อให้เกิดมลพิษ ทางการถ้องถิ่นต้องรับผิดชอบแก้ปัญหาและพักการเพาะปลูกตามแผนดังกล่าว

ส่วนพื้นที่ที่มีปัญหาสภาพดินและน้ำเสื่อม เช่น มณฑลกุ้ยโจวมณฑลยูนนานและมณฑลกานซู่ จะปรับเปลี่ยนพันธุ์พืชที่เพาะปลูกและลดพื้นที่เพาะปลูกให้น้อยลง เพื่อฟื้นฟูสภาพดินและน้ำ