นางสาวหลิว เหวินฟาง อายุ 24 ปี เป็นบอดี้การ์ดหญิงเพียงคนเดียวของสถาบันบอดี้การ์ดกรุงปักกิ่ง ชีวิตเธอต่างจากสาวจีนส่วนใหญ่นัก
หลิว เหวินฟางเป็นชาวเทียนสิน หลังทำงานเป็นพนักงานขาย 5 ปี เธอก็คิดได้ว่า นี่ไม่ใช่งานที่เธออยากจะทำจริงๆ เธอชอบกังฟูตั้งแต่เด็ก และตอนเรียนก็ถนัดเล่นกีฬา จนทำให้มีร่างกายแข็งแรงและมีพื้นฐานการต่อสู้ที่ดีกว่าสาวๆทั่วไป งานใหม่ของเธอเลยกลายมาเป็นบอดี้การ์ดมืออาชีพ
ต้นปีนี้ หลิว เหวินฟางสมัครสอบเข้าสถาบันบอดี้การ์ดมืออาชีพแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง หลังผ่านการทดสอบขั้นต้น ในจำนวนผู้มีสิทธิ์เข้ารับการอบรมขั้นต่อไปทั้งหมด 12 คน หลิว เหวินฟางเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว ซึ่งผู้อำนวยการสถาบันก็ลงมาเป็นผู้สอนเทคนิคและความรู้ที่เกี่ยวข้องแก่เธอด้วยตนเอง นายเฉิน หยุ่งชิง ผู้อำนวยการสถาบันเล่าว่า เมื่อปี 2013 บอดี้การ์ดหญิงที่เขาอบรมด้วยตนเองคนหนึ่ง มีรายได้สูงถึงปีละ 1.2 ล้านหยวน
เขาเล่าว่า ในช่วง 10 ปีข้างหน้า คาดว่าจีนต้องการบอดี้การ์ดหญิง 8 แสนคน แต่ปัจจุบัน บอดี้การ์ดหญิงมืออาชีพที่ได้มาตรฐานเต็มร้อยไม่ถึง 60 คน ด้วยเหตุนี้ บอดี้การ์ดหญิงส่วนใหญ่จึงมีรายได้สูงกว่าปีละ 3 แสนหยวน มากกว่าบอดี้การ์ดชายหนึ่งเท่า
เขายังเผยว่า การคัดเลือกบอดี้การ์ดหญิงของบริษัทบอดี้การ์ดมีเงื่อนไขเบื้อนต้น 3 ข้อ คือ 1.หน้าตาดี สูง 165 เซนติเมตรขึ้นไป น้ำหนักประมาณ 60 กิโลกรัม 2.ร่างกายแข็งแรง สำเร็จการศึกษาจากหน่วยงานทหาร สถาบันวิทยายุทธ สถาบันการกีฬา หรือทหารปลดประจำการ 3.ต้องผ่านการอบรมการเป็นบอดี้การ์ดที่เข้มงวด และต้องผ่านการทดสอบทั้งด้านร่างกาย จิตใจ ความซื่อสัตย์ ความว่องไว ไหวพริบ และวิทยายุทธ เป็นต้น
นายเฉิน หยุ่งชิงเห็นว่า การที่บอดี้การ์ดหญิงกลายเป็นคนเนื้อหอมนั้น สาเหตุสำคัญน่าจะมาจากความต้องการบอดี้การ์ดหญิงที่เพิ่มขึ้นทุกปี ทุกวันนี้ คนรวยที่มีทรัพย์สินส่วนตัวเกิน 10 ล้านหยวนขึ้นไปมีกว่า 8 แสนคน ส่วนใหญ่มีภรรยามีลูกสาว กลุ่มคนเหล่านี้มักจะจ้างบอดี้การ์ดหญิงเพื่อประกันความปลอดภัยให้ครอบครัวตัวเอง ทว่าบอดี้การ์ดหญิงมีน้อยมากอยู่แล้ว การมีรายได้สูงกว่าจึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล
อนึ่ง นักธุรกิจหญิง และดาราหญิงก็นิยมจ้างบอดี้การ์ดหญิงเช่นกัน เพราะในวันปกติบอดี้การ์ดจะเปลี่ยนหน้าที่มาเป็นผู้ช่วย คนขับ และเลขา ต้องติดตามตลอดขณะผู้ว่าจ้างช้อปปิ้ง ท่องเที่ยว หรือรับส่งลูก ถ้าบอดี้การ์ดเป็นผู้หญิงจะทำให้ผู้ว่าจ้างเหล่านี้รู้สึกไม่อึดอัด
ส่วนสาเหตุอีกประการคือ เมื่อเทียบกับบอดี้การ์ดชายแล้ว บอดี้การ์ดหญิงมีความได้เปรียบมากเป็นพิเศษอย่างเห็นได้ชัด ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ติดเหล้าเมายา และไม่ค่อยติดงานอดิเรกที่ไม่ดี ขณะเดียวกัน ผู้หญิงให้ความสำคัญกับสภาพร่างกายและจิตใจของตนมากกว่า และมักจะมีสามัญสำนึกพิเศษที่ผู้ชายส่วนใหญ่มักไม่มี
ด้วยเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในบรรดาผู้ฝึกบอดี้การ์ดของสถาบันแห่งนี้ หลิว เหวินฟางจึงได้รับการเอาใจใส่จากผู้อำนวยการสถาบันมาโดยตลอด แม้เป็นเพียงการฝึกประจำวันทั่วไป นายเฉิน หยุ่งชิงมักชี้นำและสอนด้วยตนเอง เมื่อไหร่ก็ตามที่เห็นหลิว เหวินฟางพลาด เขาก็สั่งให้เธอฝึกซ้ำจนสำเร็จ พร้อมทั้งถ่ายวีดิโอเก็บไว้ให้หลิว เหวินฟางศึกษาและปรับปรุงหลังการฝึก
นอกจากการฝึกร่างกายแล้ว ผู้ฝึกบอดี้การ์ดทุกคนยังต้องศึกษาความรู้ต่างๆเกี่ยวกับการประกันความปลอดภัยแก่ผู้ว่าจ้าง หลังเลิกฝึก หลิว เหวินฟางมักจะศึกษาข้อมูลของเหล่าบอดี้การ์ดบุคคลสำคัญในแวดวงต่างๆ
หลิว เหวินฟางถูกส่งตัวไปฝึกงานที่นครเทียนสิน ให้ไปเป็นบอดี้การ์ดของนายจัง เจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่งานนี้กลับไม่เป็นไปตามคาดคิด เพราะนอกจากรักษาความปลอดภัยนายจังแล้ว หลิว เหวินฟางยังต้องรับผิดชอบการขับรถ งานส่วนตัวของผู้ว่าจ้างบางอย่าง แม้กระทั่งการล้างรถ ซึ่งทำให้หลิว เหวินฟางเกิดความรู้สึกขัดแย้งกันในใจ แต่นายเฉิน หยุ่งชิงบอกว่า จริงๆแล้ว บอดี้การ์ดได้เป็นทั้งคนขับ ผู้ช่วยส่วนตัว กระทั่งแม่บ้านที่ดูแลเด็กก็ได้ ทำไมการล้างรถแค่นี้จะทำไม่ได้?