สำนักข่าวซินหวารายงานว่า เกี่ยวกับปัญหาทะเลหนานไห่ สื่อมวลชนตะวันตกบางสื่อพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง และใช้อัคติในการชี้แนะมวลชนทั่วไปในทางผิด การที่สื่อมวลชนตะวันตกบางสื่อเช่น หนังสือพิมพ์เดอะวอลสตรีทระบุว่า มีเพียง 8 ประเทศเท่านั้นที่สนับสนุนจุดยืนของจีนในการพิพากษาคดีทะเลหนานไห่ของศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ นั้นก็เป็นตัวอย่างเด่นชัดที่บิดเบือนข้อเท็จจริง

เวลาสื่อตะวันตกระบุถึงทะเลหนานไห่ที่จีนระบุนั้นมักเพิ่มประโยชน์ที่ว่าน่านน้ำเกือบทั่วทั้งหนานไห่ บางสื่อถึงกระทั่งชี้ว่าจีนต้องการเอาน่านน้ำทั้งหมดของหนานไห่ไป เว็บไซต์เดอะมิบไลแมท ญี่ปุ่นก็รายงานบ่อยๆ ว่า จีนจะเปลี่ยนทะเลหนานไห่ให้เป็นทะเลสาบภายในของจีน ซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และทำให้มวลชนทั่วไปเข้าใจผิด

สื่อสหรัฐฯ หลายสื่อ เช่นหนังสือพิมพ์ The Wall Street พยายามสร้างประเด็นการเดินเรืออย่างเสรี พยายามหาข้ออ้างให้สหรัฐฯ เข้าแทรกแซงกิจการทะเลหนานไห่ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ลงบทนำในหัวข้อ สหรัฐฯ แจ้งแก่พันธมิตรเอเชียว่า กองทัพเรือสหรัฐฯ จะลาดตระเวนที่บริเวณน่านน้ำทะเลหนานไห่ เป็นอีกตัวอย่างที่ยั่วยุความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอาเซียน และสร้างบรรยากาศที่ตึงเครียด

เมื่อเร็วๆ นี้ คลังสมองของสหรัฐฯ และญี่ปุ่นร่วมมือกับสื่อเหล่านี้โดยอ้างว่าเพื่อศึกษาทางวิชาการและให้ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นหน่านไห่แก่สื่อเหล่านี้ ศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์และปัญหาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ได้จัดการประชุมประจำปี และประกาศรายงาน ตลอดจนลงรูปถ่ายดาวเทียมเกี่ยวกับปัญหาทะเลหนานไห่ ซึ่งผู้ที่ให้เงินอุดหนุนคลังสมองนี้ก็คือญี่ปุ่น

ภายใต้สภาพการณ์เช่นนี้ การที่ฟิลิปปินส์ยื่นคดีทะเลหนานไห่ให้ศาลอนุญาโตตุลาการฯ พิพากษาจึงได้รับความสนใจพิเศษ สื่อตะวันตกบางสื่อประณามว่าจีนมองข้ามกฎหมายสากล แต่ไม่ยอมระบุเลยว่า จนถึงทุกวันนี้ สหรัฐฯ ยังไม่ยอมลงนามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล สื่อตะวันตกบางสื่อประณามว่าจีนไม่ยอมปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ ขณะเดียวกัน สื่อเหล่านี้ก็พยายามมองข้ามข้อเท็จจริงที่ว่า ศาลอนุญาโตตุลาการพยายามใช้อำนาจเกินขอบเขตหน้าที่ และละเมิดกฎหมายสากล

(Yim/cici)