นักวิเคราะห์เห็นว่า จีน – ญี่ปุ่น- เกาหลีใต้ ซึ่งเป็นสามประเทศที่มีอิทธิพลมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ สามประเทศจะควบคุมข้อขัดแย้งและผลักดันความร่วมมืออย่างไร จะมีบทบาทสำคัญต่อความปลอดภัย ความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ
นายหวัง อี้กล่าวว่า สามประเทศควรมองประวัติศาสตร์อย่างถูกต้อง และมุ่งสู่อนาคต ขจัดความยากลำบากและสิ่งรบกวนต่างๆ ผลักดันความร่วมมือไปสู่ทิศทางที่ถูกต้องและมั่นคง ขั้นตอนต่อไป สามฝ่ายควรเพิ่มความไว้วางใจทางการเมือง ดำเนินความร่วมมือที่มุ่งปฏิบติเป็นจริงได้ ส่งเสริมการไปมาหาสู่กันระหว่างประชาชน ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ยอดประชากรจีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เกินกว่า 1,500 ล้านคน เป็นประมาณ 20% ของโลก ยอดเศรษฐกิจรวมแล้วเกินกว่า 16 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็น 70% ของเอเชียและ 20% ของโลก เงินตราต่างประเทศสำรองคิดเป็น 47% ของโลก การค้าและการลงทุนต่างประเทศล้วนเป็น 20% ของโลก สามประเทศเป็นใจกลางการพัฒนาของเอเชีย และเอเชียก็เป็นใจกลางการเติบโตของเศรฐกิจโลก ดังนั้น การที่จีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กระชับความร่วมมือ จึงมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออก ตลอดจนทั่วโลกด้วย
การประชุมครั้งนี้ สามฝ่ายจะหารือเร่งกระบวนการเจรจาเขตการค้าเสรีจีน – ญี่ปุ่น – เกาหลีใต้ จัดการประชุมระหว่างประเทศจำนวนหนึ่ง เพื่อปูพื้นฐานแก่การประชุมผู้นำสามประเทศภายในปีนี้
สื่อมวลชนญี่ปุ่นให้ความสำคัญมากต่อการประชุมครั้งนี้โดยเน้นว่า การประชุมครั้งก่อนจัดขึ้นเมื่อ 5 ปีครึ่งที่ผ่านมา และนับเป็นครั้งแรกที่รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเดินทางเยือนญี่ปุ่นนับตั้งแต่ปี 2012 ที่ผ่านมา
นักสังเกตการณ์ชี้ให้เห็นว่า การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศจีน- ญี่ปุ่น- เกาหลีใต้ มีวัตถุประสงค์ที่จะรักษาสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค คงไว้ซึ่งแนวโน้มการพัฒนาระหว่างสามประเทศ ส่งเสริมกระบวนกระเป็นหนึ่งเดียวกันของเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ
(IN/Lin)