สำนักข่าวซินหวารายงานว่า เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้พบกับนายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนามที่มหาศาลาประชาชนที่กรุงปักกิ่ง
นายสี จิ้นผิง ระบุว่า จีน-เวียดนามควรใช้ความพยายามและปฏิบัติตามความเข้าใจร่วมกันระดับสูงทั้งของพรรคและรัฐบาลให้ดี และพัฒนาความสัมพันธ์แบบทวิภาคีตามความเข้าใจทางยุทธศาสตร์ในระดับสูง สองประเทศควรกระชับความร่วมมือในด้านต่างๆ ตามเจตนารมณ์ที่อำนวยประโยชน์แก่กันและได้รับชัยชนะร่วมกัน เร่งผลักดันให้ยุทธศาสตร์ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" กับ 2 ระเบียงและ 1วงแหวน (Two Corridors and One Ring) เชื่อมต่อกัน และผลักดันการดำเนินโครงการความร่วมมือสำคัญในการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน และการสร้างเขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจข้ามแดน สร้างความผาสุกให้กับประชาชน สองฝ่ายควรยืนหยัดการจัดการปัญหาทะเลหนานไห่ หรือทะเลจีนใต้อย่างเหมาะสมโดยผ่านการหารือของสองฝ่าย ผลประโยชน์ร่วมกันของจีน-เวียดนามมากกว่าความขัดแย้งกันเป็นอย่างมาก ซึ่งสามารถที่จะจัดการและควบคุมข้อขัดแย้งได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยผ่านการหารืออย่างเป็นมิตร และผลักดันความร่วมมือทางทะเล สองฝ่ายควรใช้กลไกการหารือที่มีอยู่แล้ว เช่น การเจรจาพรมแดนภาครัฐบาล ให้ดี ผลักดันการงานหลังจากร่วมกันดูงานที่น่านน้ำทะเลนอกปากอ่าวเป่ยปู้ และให้การพัฒนาร่วมกันในน่านน้ำทะเลหนานไห่มีขอบเขตกว้างขึ้นและได้รับผลคืบหน้า โดยจะให้การท้าทายจากปัญหาทางทะเลกลายเป็นโอกาสแห่งความร่วมมือ
ส่วนนายเหวียน ซวนฟุกระบุว่า การถ่ายทอดและขยายมิตรภาพที่มีมาช้านานระหว่างเวียดนามกับจีน ซึ่งเกิดจากการบ่มเพาะจากผู้นำรุ่นอาวุโสของสองประเทศ เช่น ประธานเหมาเจ๋อตุงและประธานโฮจิมินห์ ไม่เพียงแต่สอดคล้องกับผลประโยชน์ยาวไกลและพื้นฐานของเวียดนาม-จีนเท่านั้น หากยังเป็นผลดีต่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองของส่วนภูมิภาคด้วย เวียดนามจะจดจำที่จีนให้การสนับสนุนอย่างใหญ่หลวงต่อภารกิจปลดปล่อยชนชาติ และภารกิจแห่งสังคมนิยม จะพัฒนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนก่อนประเทศอื่น หวังว่าจะเพิ่มความเชื่อถือทางการเมือง กระชับความร่วมมือที่มุ่งผลปฏิบัติได้ จัดการและควบคุมความขัดแย้งอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมให้ความสัมพันธ์ที่มีมาช้านานกับความสัมพันธ์ฉันประเทศเพื่อนบ้านระหว่างจีน-เวียดนามพัฒนาไปอย่างมั่นคงต่อไป