เจ้าหน้าที่ข่าวกรองของกองบัญชาการแนวหน้าทหารรัฐบาลอิรักเผยว่า สมาชิกกลุ่มไอซิสจำนวนมากได้หนีออกจากเมืองโมซูลแล้วก่อนการโจมตีเริ่มขึ้น คาดว่าทหารรัฐบาลสามารถบุกเข้าใจกลางเมืองโมซูลในกลางเดือนพฤศจิกายน และยึดทั้งเมืองกลับคืนมาก่อนสิ้นปี
แต่กลุ่มไอซิสได้วางกับระเบิดมากมายตามทางเข้าสู่เมืองโมซูล ทำให้การจู่โจมของทหารรัฐบาลยากลำบากมากขึ้น นอกจากนี้ กลุ่มไอซิสตั้งฐานทัพในชุมชุน ใช้ชาวบ้านเป็นโล่กำบัง การเคลื่อนทัพของทหารรัฐบาลจึงเป็นไปอย่างค่อนข้างช้า
ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารอิรักเห็นว่า การยึดเมืองโมซูลกลับคืนจะเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่า สงครามต่อต้านการก่อการร้ายในอิรักประสบชัยชนะอันใหญ่หลวง การปกครองของกลุ่มไอซิสในอิรักใกล้จะล่มสลาย
เมืองโมซูลเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของอิรัก และเป็นแหล่งผลิตน้ำมันดิบที่สำคัญ อีกทั้งเป็นเมืองสุดท้ายที่ยังอยู่ในการยึดครองของกลุ่มไอซิสในอิรัก โมซูลถือเป็นชีพจรเศรษฐกิจของกลุ่มไอซิส รายได้จากการขายน้ำมันดิบของตำบลเล็กๆ แห่งหนึ่งในเมืองนี้มากถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน การยึดเมืองนี้กลับคืนมาจะซัดกระหน่ำกลุ่มไอซิสอย่างหนัก
นักวิเคราะห์เห็นว่า ปฏิบัติการทางทหารดังกล่าวอาจทำให้สถานการณ์ทางมนุษยธรรมในท้องถิ่นเลวร้ายลงอีก หลังจากกลุ่มไอซิสถอนออกไปแล้ว ฝ่ายต่างๆ ที่ร่วมปฏิบัติการย่อมจะแย่งชินอำนาจปกครองพื้นที่แห่งนี้ กำลังสนับสนุนอยู่เบื้องหลังทหารรัฐบาล กองกำลังติดอาวุธฝ่ายซีอะห์ ฝ่ายซุนนี และกองกำลังติดอาวุธชาวเคิร์ด ก็จะต่อสู้กัน สหรัฐอเมริกา ประเทศรอบอ่าวเปอร์เซีย อิหร่านและตุรกี ล้วนประสงค์จะก้าวก่ายการเมืองอิรัก ซึ่งอาจจะทำให้สถานการณ์ในภูมิภาคนี้ทวีความปั่นป่วนมากขึ้น ดังนั้น รัฐบาลอิรักและประชาคมโลกจึงคงต้องเผชิญกับการท้าทายอันหนักหน่วงซึ่งเกิดจากปัญหาวิกฤตมนุษยธรรมและการรักษาความมั่นคงของภูมิภาค