วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในจีนมีจำนวนมหาศาล และมีนวัตกรรมมากกว่าวิสาหกิจประเภทอื่นด้วย ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ 60% และเงินภาษีจากวิสาหกิจ 50 % ของจีนมาจากวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม แต่สภาพแวดล้อมในการประกอบธุรกิจของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมกลับไม่ดีพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนี้ที่มีแรกกดดันขาลงค่อนข้างมาก
มณฑลกวางตุ้งเป็นพื้นที่ที่เศรษฐกิจภาคเอกชนค่อนข้างเจริญ วิสาหกิจ95% ขึ้นไปในมณฑลแห่งนี้เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม นาย เหริน ชิ่งหวา รองอธิบดีกรมกำกับดูแลการเงินมณฑลกวางตุ้งกล่าวกับสื่อมวลชนว่า จากการสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้พบว่า วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในมณฑลกวางตุ้งกำลังเผชิญกับปัญหา 5 ประการ ได้แก่ ความต้องการในตลาดค่อนข้างต่ำ ค่าแรงงานเพิ่มสูงขึ้น ราคาวัสดุแพงขึ้น ภาษีอากรหนักขึ้น และการจ้างงานยากขึ้น
ร่างกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs)ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมได้กำหนดมาตรฐานการเข้าสู่ตลาดของวิสาหกิจ และมาตรการตรวจสอบที่เป็นเอกภาพ ยกเลิกมาตรการคุ้มครองวิสาหกิจของพื้นที่ต่างๆ กำหนดบทลงโทษพฤติกรรมผูกขาดในตลาด และการแข่งขันที่ไม่เที่ยงธรรม ทั้งนี้เพื่อทำให้วิสาหกิจทุกประเภทมีสิทธิ และโอกาสเท่าเทียมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมกำลังเผชิญอยู่ สร้างสภาพแวดล้อมการตลาดที่ให้วิสาหกิจทุกประเภทสามารถแข่งขันกันอย่างเท่าเทียมกันได้
ร่างกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs)ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมยังกำหนดไว้ว่า ให้เร่งพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานด้านการเงิน ส่งเสริมบริการทางการเงินที่ให้สิทธิพิเศษ ให้มีนวัตกรรมทั้งด้านการเงินและการประกันสินเชื่อ สนับสนุนการระดมทุนโดยตรง สนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนหลายระดับ ทั้งนี้ล้วนเพื่อแก้ไขปัญหาวิสาหกิจขนาดกลางและชนาดย่อมระดมทุนยาก และมีค่าใช้จ่ายสูงเกินไป
(IN/cai)