คืนวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นพบเจรจากับนางอองซานซูจี มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศพม่าที่กำลังเยือนญี่ปุ่น สองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันเกี่ยวกับการเพิ่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศ ในการเจรจา นายชินโซ อาเบะให้สัญญาว่าจะให้เงินทุนช่วยเหลือพม่า 8 แสนล้านเยน คิดเป็นประมาณ 7,751 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นักวิเคราะห์เห็นว่า ญี่ปุ่นคงหวังจะขยายอิทธิพลทางการเมืองในพม่าโดยผ่านการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ นางอองซานซูจีเดินทางถึงกรุงโตเกียวเพื่อเยือนญี่ปุ่นเป็นเวลา 5 วัน นับเป็นการเยือนญี่ปุ่นครั้งแรก หลังดำรงตำแหน่งในรัฐบาลชุดใหม่ของพม่าเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้

นายชินโซ อาเบะกล่าวว่า ญี่ปุ่นเป็นมิตรของพม่า และจะให้การสนับสนุนแก่รัฐบาลชุดใหม่ของพม่าทุกด้านทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ญี่ปุ่นหวังว่าการเยือนของนางอองซานซูจีครั้งนี้จะมีส่วนช่วยต่อการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นอย่างมาก นางอองซานซูจีกล่าวว่า ปัจจุบัน การพัฒนาของเศรษฐกิจพม่าค่อนข้างล่าช้า ต้องการการลงทุนและผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจจำนวนมาก เธอยังกล่าวว่า พร้อมกับการเปิดหน้าใหม่ทางประวัติศาสตร์ พม่าจะมองญี่ปุ่นเป็นหุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจได้ต่อไป

ในการเจรจาครั้งนี้ นายชินโซ อาเบะให้สัญญาว่า ภายใน 5 ปีข้างหน้า รัฐบาลและภาคเอกชนญี่ปุ่นจะให้เงินทุน 800,000 ล้านเยน เพื่อช่วยเหลือพม่าในด้านต่างๆ 9 ด้าน รวมถึงการก่อสร้างสาธารณูปโภคในเขตชนบท การสร้างตำแหน่งงาน และการฟื้นฟูอุตสาหกรรม เป็นต้น ในจำนวนนี้ ยังรวมถึงเงินช่วยเหลือแก่เขตที่มีชนกลุ่มน้อยในพม่า 40,000 ล้านเยน สองฝ่ายยังบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับโครงการแลกเปลี่ยนหรืออบรมบุคลากรขนาด 1,000 คนในทุกปี

นายหยาง ซีหยู่ว์ นักวิจัยสถาบันวิจัยปัญหาระหว่างประเทศของจีนเห็นว่า การเยือนญี่ปุ่นของนางอองซานซูจีครั้งนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ปัจจุบัน สภาพเศรษฐกิจญี่ปุ่นก็ค่อนข้างลำบาก แต่ขณะนี้ญี่ปุ่นเปิดโครงการช่วยเหลือที่มีมูลค่า 800,000 ล้านเยน ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ญี่ปุ่นก็หวังจะฟื้นฟูอิทธิพลของตนในพม่า ทั้งอิทธิพลทางเศรษฐกิจและอิทธิพลการเมือง โครงการดังกล่าวก็สอดคล้องกับความต้องการของพม่าด้วย

In/Sun