ศ.ดร.จู้ ลี่เจีย สถาบันรัฐศาสตร์แห่งชาติจีนระบุว่า เอกสาร 2 ฉบับดังกล่าวมีลักษณะเจาะจงและปฏิบัติได้มาก เป็นสัญลักษณ์ว่า การบริหารพรรคและการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเข้าสู่ช่วงที่เป็นระบบระเบียบมากขึ้น มีบทบาทชี้ขาดต่อการปรับวิถคีการปฏิบัติของพรรค วิถีการเมือง วิถีสังคม ตลอดจนการสร้างการเมืองให้ดีขึ้น
ศ.จวง เต๋อสุ่ย รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการสร้างการเมืองที่โปร่งใสสุจริต มหาวิทยาลัยปักกิ่งระบุว่า เอกสาร 2 ฉบับดังกล่าวมุ่งแก้ปัญหาใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการพัฒนาที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนกำลังเผชิญอยู่ เขากล่าวว่า
"สถานการณ์และภาระหน้าที่ด้านการบริหารพรรคฯ อย่างเข้มงวดมีความแตกต่างกับแต่ก่อน หลัง 'สมัชชา 18' พบว่า ปัญหาบางอย่างที่เกิดขึ้นภายในพรรค เช่น ลัทธิแบ่งกลุ่ม ลัทธิแบ่งพรรคแบ่งพวก เป็นเรื่องไม่ปกติของวิถีการเมืองภายในพรรคฯ และเป็นผลจากการขาดการตรวจสอบภายในพรรคอย่างมีประสิทธิภาพ เอกสาร 2 ฉบับนี้จะมุ่งบริหารพรรคอย่างเข้มงวด แก้ปัญหาใหม่ๆ และกำหนดทิศทางกำหนดระบบใหม่เพื่อบริหารพรรคอย่างเข้มงวดทุกด้านในขั้นต่อไป"
ระหว่างการร่างเอกสาร 2 ฉบับดังกล่าว มีการระดมความคิดเห็นและข้อเสนอจากทุกฝ่ายอย่างกว้างขวาง ทั้งสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนพรรคอื่นๆ และบุคคลที่ไม่สังกัดพรรค
(IN/LING)