สำนักข่าวซินหวารายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯประกาศพิมพ์เขียวการบริหารประเทศร้อยวันหลังรับตำแหน่ง ซึ่งในพิมพ์เขียวนี้รวมถึงการถอนตัวออกจากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก(ทีพีพี)ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง ทั้งนี้จะหมายความว่า ทีพีพีจะต้องประสบความล้มเหลวหรือไม่ ? รัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯจะหันไปใช้นโยบายกีดกันทางการค้าหรือไม่? แนวนโยบายทางการค้าของสหรัฐฯจะเปลี่ยนจากรูปแบบพหุภาคีมาเป็นรูปแบบทวิภาคีหรือไม่?
ความคกลงทีพีพีเปรียบเสมือนเป็นมรดกการเมืองสำคัญของรัฐบาลโอบามา และสิ่งนี้ถูกนายโดนัลด์ ทรัมป์โจมตีอย่างหนัก กลุ่มแรงงาน ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่สนับสนุนนายโดนัลด์ ทรัมป์กังวลว่า การทำข้อตกลงทีพีพีจะทำให้โอกาสการทำงานไปตกอยู่กับประเทศกำลังพัฒนา เช่น เวียดนาม มาเลเซีย ดังนั้น การที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศจะถอนตัวออกจากทีพีพีหลังได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯนั้นไม่ได้อยู่นอกเหนือการคาดการณ์ของผู้คนทั้งหลาย
รัฐบาลโอบามา ซึ่งขับเคลื่อนกระบวนการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกมาโดยตลอดรู้สึกผิดหวังต่อการนี้ วันที่ 22 พฤศจิกายน โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า หากรัฐสภาสหรัฐฯไม่อนุมัติทีพีพี จะทำให้บริษัท และแรงงานสหรัฐฯตกอยู่ในภาวะเสียเปรียบท่ามกลางการแข่งขันอย่างมาก เพราะว่า ภาคีของความตกลงทีพีพีอาจขับเคลื่อนกระบวนการการค้าเสรีต่อไป โดยไม่ต้องให้สหรัฐฯมีส่วนร่วม
นางเว็นดี้ คัทเลอร์(Wendy Cutler) อดีตรองผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) แสดงความเห็นว่า เนื่องจากแกนนำพรรคริพับลิกันและบุคคลในแวดวงธุรกิจส่วนใหญ่สนับสนุนความตกลงทีพีพี จึงไม่ควรด่วนสรุปเร็วเกินไปว่า ทีพีพีล้มเหลวแล้ว เธอยังกล่าวอีกว่า ช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี นายโอบามาก็เคยคัดค้านข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐฯ-เกาหลีใต้ที่ประธานาธิบดีบุชลงนามเมื่อปี2007 แต่หลังนายโอบามารับตำแหน่งประธานาธิบดี ด้วยการโน้มน้าวของรัฐบาลเกาหลีใต้ สหรัฐฯก็ยอมเจรจาเนื้อหาบางส่วนของข้อตกลงดังกล่าวกับเกาหลีใต้อีกครั้ง และในที่สุด ทั้งสองฝ่ายก็ทำข้อตกลงกันได้ในปลายปี 2010 ด้วยเหตุนี้ เธอเชื่อว่า หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์รับตำแหน่งประธานาธิบดี ผู้นำประเทศภาคีทีพีพีจะพยายามโน้มน้าวให้รัฐบาลนายโดนัลด์ ทรัมป์อนุมัติทีพีพีเช่นกัน
แต่ด้านนายแกร์รี่ ฮับเบาเออร์ (Gary Hufbauer) ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯกล่าวว่า ช่วง 4 ปีข้างหน้า มีความเป็นไปได้น้อยมากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์จะผลักดันการเจรจาความตกลงทีพีพี รัฐบาลชุดใหม่สหรัฐฯอาจหันไปเจรจาการค้าทวิภาคีกับบางประเทศ โดยเฉพาะเจรจากับญี่ปุ่น
หลายสัปดาห์ข้างหน้า นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะประกาศรายชื่อผู้รับตำแหน่งสำคัญด้านเศรษฐกิจ เช่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้แทนการค้า ประธานคณะกรรมการเศรษฐกิขแห่งชาติ และประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของทำเนียบขาว หลังจัดตั้งทีมบริหารเศรษฐกิจขึ้นเรียบร้อยแล้ว อนาคตของทีพีพี และแนวนโยบายการค้าของสหรัฐฯจึงจะมีความชัดเจนขึ้น
(TOON/cai)
