สถานีวิทยุซีอาร์ไอรายงานว่า ขณะนี้ รัฐบาลไทยกำลังเร่งผลักดันยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจไทยโดยอาศัยความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นหลัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวในงานสัมมนาในหัวข้อ "โอกาสแห่งประเทศไทย" เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ไทยต้องดำเนินยุทธศาสตร์ 4.0 โมเดลพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ ทำการปฏิรูปในทุกด้าน เพื่อก้าวทันการพัฒนาของโลก ปีหลังๆ นี้ วิสาหกิจจีนลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การพัฒนาเศรษฐกิจด้วยการนวัตกรรมของไทยจึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับวิสาหกิจจีน
เมื่อเร็วๆ นี้ ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอว่า การดำเนินยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 จะทำให้อุตสาหกรรม และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง
จากการดำเนินยุทธศาสตร์นี้ ประชาชนจะมีโอกาสรับการศึกษามากขึ้น ไทยจะมีระบบการคมนาคมที่ทันสมัย มีเทคโนโลยีนิวไฮเทค มีแรงงานฝีมือดี ทั้งนี้จะช่วยเพิ่มกำลังแข่งขันให้กับไทยมากขึ้น แน่นอน ในยุคปัจจุบัน ไทยก็ต้องเผชิญกับการแข่งขันมากขึ้นจากอดีต อย่างไรก็ตาม ไทยจะมุ่งมั่นในการพัฒนาประเทศของตนเอง เฉกเช่นกับที่ประเทศจีนกำลังทำอยู่ในขณะนี้
ปัจจุบัน จีนเป็นคู่ค้าใหญ่สุดของไทย และเป็นประเทศใหญ่อันดับสองที่มาลงทุนในไทย ข้อมูลของปีที่แล้วแสดงให้เห็นว่า บริษัทเทคโนโลยีนิวไฮเทค และบริษัทขายสินค้าบนโลกออนไลน์ของจีนพากันมาตั้งสาขาบริษัทในไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพบกับแจ๊ค หม่า ประธานกลุ่มบริษัทขายสินค้าบนโลกออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของจีนถึงสองครั้ง ซึ่งร้านเซเว่นอีเลฟเว่นกว่า 9,000 แห่งทั่วประเทศไทยเพิ่มรูปแบบการชำระเงินสินค้าผ่านแอพพลิเคชั่น Alipay บนมือถือโดยไม่คิดค่าธรรมเนียม สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของบริษัท หวาเหวย ได้รับความนิยมมากจากผู้บริโภคชาวไทย ปีนี้ สภาวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีนจะจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมที่เมืองไทย โดยจะทำการศึกษาวิจัย เพื่อช่วยให้สินค้าจีนมีความสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในกลุ่มประเทศอาเซียนมากขึ้น
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กล่าวว่า ไทยอยากให้วิสาหกิจจีนมาลงทุนในไทยมากขึ้น ไทย-จีนสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีมาก ในอนาคต การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีนจะมีความหมายมากกว่าแต่ก่อน เพราะยุทธศาสตร์ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง"ที่จีนริเริ่มครอบคลุมถึงไทย ปีนี้ โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนจะเริ่มดำเนินการ ไทยจะส่งออกสินค้าไปยังตลาดจีนมากขึ้น บริษัทขนาดใหญ่ของจีน เช่น หวาเหวย และอาลีบาบา จะมาจัดตั้งสาขาบริษัทในไทย ไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า วิสาหกิจจีนมาลงทุนในไทยมากขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ไทยจะมีโอกาสเรียนรู้เทคโนโลยีนิวไฮเทคจากจีนมากขึ้น
(YIM/cai)
