ปัจจุบัน ที่เมืองใหญ่ๆของจีน รวมถึงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว และเซินเจิ้น เป็นต้น ราคาบ้านสูงมาก โดยเฉพาะในตัวเมือง บ้านทั่วไปหลังหนึ่งที่ราคา 4-5 ล้านหยวนก็นับว่าค่อนข้างต่ำ หากมีความต้องการซื้อบ้าน ถึงเป็นครอบครัวที่มีรายได้ปีละสองแสนหยวนก็ยังรู้สึกมีความกดดันมากมาย เพราะหักค่าใช้จ่ายต่างๆในการดำเนินชีวิตแล้ว ก็ไม่ค่อยมีเหลือแต่อย่างใด
นิตยสาร The Economist ของอังกฤษมีคำจำกัดความต่อคนชั้นกลางของจีนว่า เป็นคนที่มีรายได้ครอบครัวปีละ 11,500-43,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งคิดเป็น 80,000-300,000 หยวน ปัจจุบัน คนชั้นกลางของจีนมีจำนวน 225 ล้านคน พวกเขาเป็นคนที่กังวลต่อชีวิตความเป็นอยู่มากที่สุดในโลก
แต่นายซู ไห่หนานเห็นว่า การให้คำจำกัดความต่อคนชั้นกลางของจีนนั้น คงไม่ควรพูดรวมๆเช่นนี้ ในช่วงปัจจุบัน รายได้ผู้คนในท้องที่ต่างๆของจีนยังต่างกันมาก ระหว่างเมืองใหญ่กับเมืองเล็กหรือเขตชนบทมีช่องว่างมากมาย รายได้เฉลี่ยของคนทำงานทั่วประเทศยังค่อนข้างต่ำ และคนทำงานส่วนใหญ่ยังมีรายได้ต่ำกว่าระดับเฉลี่ยของสังคม คนชั้นกลางควรเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้สูงกว่าระดับเฉลี่ยทั่วประเทศหรือสังคมท้องถิ่น และยังไม่ถึงระดับร่ำรวย
นายซู ไห่หนานระบุว่า เมื่อพิจารณาอย่างเป็นรูปธรรมควรใช้มาตรฐานดังต่อไปนี้ รายได้ของคนชั้นกลางควรอยู่ระหว่าง 1-2.5 เท่าของรายได้เฉลี่ยท้องถิ่น หากพิจารณาจากทั่วประเทศ ผู้ที่มีรายได้ส่วนบุคคลต่อปี 60,000-150,000 หรือรายได้ครอบครัวต่อปี 85,000-225,000 หยวน มีพื้นที่บ้านเฉลี่ยต่อคนมากกว่าระดับเฉลี่ยทั่วประเทศ และยังมีสินทรัพย์ทางการเงินอีกจำนวนหนึ่ง ก็นับได้ว่าเป็นคนชั้นกลางแล้ว ส่วนในเมืองใหญ่พิเศษ รวมถึงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว และเซินเจิ้น ต้องมีรายได้ถึง 2 เท่าของระดับเฉลี่ยทั่วประเทศ จึงนับเป็นคนชั้นกลางได้
ในความคิดของคนทั่วไป แม้คนชั้นกลางยังไม่ร่ำรวยมาก แต่ก็พอกินพอใช้ น่าจะมีชีวิตค่อนข้างสงบสุข แต่สังเกตได้ว่า คนชั้นกลางของจีนในปัจจุบัน มีความกังวลต่อชีวิตมากกว่ากลุ่มคนอื่นจริงๆ ปีหลังๆนี้ ชาวจีนที่วางแผนจะอพยพไปต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางคนกังวลว่า ลูกจะไม่ชินกับสภาพแวดล้อมด้านการศึกษาที่มีการแข่งขันอย่างสูง บางคนกังวลว่า มลพิษทางอากาศจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของลูก ยังมีจำนวนหนึ่งกังวลว่า ในอนาคตจะมีแรงกดดันมากเกินในด้านบำนาญหรือการรักษาโรค จึงคิดจะอพยพไปประเทศที่มีสวัสดิการดีกว่าหรือเงื่อนไขการรักษาพยาบาลที่สมบูรณ์กว่ามาก
นักวิเคราะห์เห็นว่า ความกังวลต่างๆของคนชั้นกลางในจีน เป็นผลจากความกังวลต่ออนาคต เนื่องจากปัจจุบัน ราคาบ้านแพงเกินไปแล้ว แต่ก็ยังเพิ่มขึ้นอยู่ ต้นทุนของการศึกษา การรักษาโรค และบำนาญต่างเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นายซู ไห่หนานชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่ทางการจีนต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งคือ ใช้การปฏิบัติที่แท้จริงในการผลักดันการปฏิรูประบบการกระจายรายได้และนโยบายที่เกี่ยวข้องอย่างมีพลัง เพื่อให้มีความสมดุลและเหมาะสมยิ่งขึ้น ปัจจุบัน คนชั้นกลางในจีนยังไม่ถึง 20% ของประชากรทั้งหมด นับว่าเป็นสัดส่วนค่อนข้างต่ำ ต่อไปในอนาคต ต้องให้กลุ่มคนชั้นกลางเพิ่มมากขึ้น โดยผ่านการปฏิรูปและรักษาการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และพยายามขจัดความกังวลของคนชั้นกลาง หลีกเลี่ยงการติด "กับดักรายได้ปานกลาง"