ตามคำเชิญของนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนจะพบกับนายโดนัล ทรัมป์ ที่รีสอร์ต มาร์-อา-ลาโก(Mar-a-Lago resort) รัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 6-7 เมษายนตามเวลาท้องถิ่น นายหลี่ เฉิง ผู้อำนวยการศูนย์จีนธอร์ตัน(John L. Thorton China Center) สถานบันบรูคิงส์(Broolings Institution)ของสหรัฐฯ เห็นว่า การพบปะครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง จะกำหนดโครงสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในอนาคต
นายหลี่ เฉิงเห็นว่า แม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงช่วงระยะก่อนและหลังประธานาธิบดีทรัมป์ขึ้นดำรงตำแหน่ง ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ เกิดความไม่มั่นคงบ้างก็ตาม แต่โชคดีที่ได้กลับคืนสู่หนทางอันถูกต้องโดยเร็ว ซึ่งเป็นผลงานของผู้นำจีนที่มีปัญญาความสามารถในการจัดการกับความสัมพันธ์ทวิภคีที่สำคัญที่สุดในศตวรรษที่ 21
นายหลี่ เฉิงกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญกับการท้าทายสำคัญมากมาย จีนกับสหรัฐฯ มีแต่ร่วมมือกัน ถึงจะนำทั่วทั้งโลกรับมือกับการท้าทายได้
นายหลี่ เฉิงยังระบุว่า ในฐานะเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับที่ 1 และ 2 ของโลก การที่ผู้นำสองประเทศจัดการพบเจรจาในช่วงต้นที่รัฐบาลทรัมป์เริ่มบริหารประเทศนั้น เป็นเรื่องที่น่ายินดีน่าตื่นเต้น เขาวิเคราะห์ว่า การพบเจรจาครั้งนี้ จะมีเนื้อหาใน 3 ด้าน
1. พิจารณาปัญหาความมั่นคงที่เร่งด่วนที่สุดในปัจจุบัน รวมถึงการโจมตีลัทธิก่อการร้าย และการป้องกันการแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ นอกจากนี้ ยังจะกำหนดกรอบการแลกเปลี่ยนทวิภาคี ขณะนี้ มีกลไกแลกเปลี่ยนของรัฐบาลระหว่างสองประเทศมากกว่า 150 กลไก จะมีการปรับลดและปรับสภาพที่ต่างคนต่างพูดในปัญหาบางประการ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดและการตัดสินใจผิด การพบเจรจาครั้งนี้ ยังจะกำหนดทิศทางของยุทธศาสตร์การพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีในอนาคต เมื่อเร็วๆ นี้ นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เสนอกรอบยุทธศาสตร์ในช่วง 50 ปีข้างหน้าขณะเยือนกรุงปักกิ่ง และอ้างอิงคำกล่าวของจีนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมหาประเทศแบบใหม่ คือ "ไม่ปะทะกัน ไม่เป็นปรปักษ์กัน เคารพกัน ร่วมมือเพื่อได้ชัยชนะด้วยกัน"
นายหลี่ เฉิงเชื่อว่า การแสดงท่าทีของนายทิลเลอร์สันแสดงให้เห็นถึงแนวคิดการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ดังนั้น การพบเจรจาระหว่างผู้นำสองประเทศที่จะมีขึ้นในเร็วๆ นี้ จะกำหนดสถานการณ์ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ในอนาคต
In/LR