วันที่ 18 เมษายนนี้ นายหวาง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงข่าวที่กรุงปักกิ่งเกี่ยวกับงานเตรียมการจัดการประชุมฟอรั่มสุดยอดความร่วมมือระหว่างประเทศในยุทธศาสตร์ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง"
โดยนายหวาง อี้ กล่าวว่า จีนมีความปรารถนาที่จะถือโอกาสการจัดประชุมครั้งนี้ สร้างเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศที่เปิดกว้างและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ร่วมหารือในประเด็นเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจของโลก และประเทศต่างๆ ทั่วโลก ขับเคลื่อนการไปมาหาสู่กันฉันมิตรระหว่างประชาชนประเทศต่างๆ ทั่วโลก บรรลุเป้าหมายการหลอมรวมทางวัฒนธรรม และการแบ่งปันประโยชน์จากการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกัน
นายหวาง อี้กล่าวว่า ยังมีเวลาเหลืออีกไม่ถึงเดือน ก็จะจัดการประชุมฟอรั่มสุดยอดเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างประเทศในยุทธศาสตร์ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ขณะนี้ งานเตรียมการด้านต่างๆ ใกล้จะเสร็จเรียบร้อย การประชุมครั้งนี้นับเป็นการประชุมระหว่างประเทศครั้งสำคัญที่จีนเป็นเจ้าภาพ หลังนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนริเริ่มการดำเนินยุทธศาสตร์ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" เมื่อปี 2013 จนถึงขณะนี้ มีผู้นำ 28 ประเทศ เช่น นายบุนยัง วอละจิด ประธานประเทศลาว นายโรดริโก้ ดูเตร์เต้ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ นายเจิ่น ได กว่าง ประธานาธิบดีเวียดนาม และนายนาจิบ ราซะก์ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียยืนยันแล้วว่า จะเดินทางมาร่วมประชุมครั้งนี้ตามคำเชิญของนายสี
จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูง นักวิชาการ นักธุรกิจ ตัวแทนองค์กรการเงินจำนวนมากก็ยืนยันจะเดินทางมาร่วมประชุมครั้งนี้เช่นกัน ในส่วนเจ้าหน้าที่ระดับสูง มีรองนายกรัฐมนตรี 9 คน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 7 คน และเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีกว่า 190 คนจาก 92 ประเทศจะเดินทางมาร่วมประชุม สรุปแล้ว ผู้ร่วมการประชุมครั้งนี้ มีจำนวนรวมไม่ต่ำกว่า 1200 คน มาจากทั้งประเทศในเอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือ ลาตินอเมริกา และแอฟริกา นับเป็นการประชุมระหว่างประเทศครั้งสำคัญหลังการประชุมเอเปคที่กรุงปักกิ่ง และการประชุมผู้นำกลุ่มจี 20 ที่เมืองหางโจว เชื่อมั่นว่า การประชุมครั้งนี้จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
นายหวางอี้ ยังกล่าวว่า ประเด็นหลักของการประชุมครั้งนี้คือ กระชับความร่วมมือระหว่างประเทศ ร่วมพัฒนา "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ได้ชัยชนะร่วมกัน
จีนยึดมั่นในหลักการ "ร่วมปรึกษาหารือ ร่วมพัฒนา และร่วมแบ่งปันประโยชน์" ในการดำเนินยุทธศาสตร์ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" เพื่อบรรลุเป้าหมายพัฒนาความเจริญขึ้นร่วมกันจากการดำเนินความร่วมมือตามยุทธศาสตร์ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง"
(YIM/cai)