หนังสือพิมพ์เหรินหมินรึเป้ารายงานว่า เมื่อปี 2013 นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเยือนประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเสนอให้อาเซียนร่วมสร้างเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 ได้รับการสนับสนุนจากประเทศอาเซียนอย่างเต็มที่ ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางเริ่มจากไม่มีจนมี จากเล็กไปใหญ่ ได้รับผลสำเร็จอย่างสมบูรณ์น่าพอใจและนำประโยชน์แก่ประชาชนอย่างแท้จริง รวมทั้งสร้างโอกาสแก่วิสาหกิจจีนในการสร้างห่วงโซ่การอุปทานอุปโภค การผลิตและมูลค่า จีนกับประเทศอาเซียนได้รับผลคืบหน้าสำคัญในด้านพลังงานการผลิต การเชื่อมโยงกันและสร้างนิคมอุตสาหกรรม

ปัจจุบัน 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนมี 7 ประเทศมีเขตว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้ากับจีน นายสีว์ เกินหลัว ซีอีโอของบริษัทบุกเบิกพัฒนานิคมอุตสาหกรรมระยองไทย-จีนกล่าวว่า ที่การสร้างเขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าในต่างประเทศ สามารถนำพาวิสาหกิจจีนไปลงทุนสร้างโรงงานนอกประเทศนั้น มีส่วนช่วยต่อการส่งเสริมวัฒนธรรมกลมกลืนกัน แสดงบทบาททางการทูตของภาคเอกชน การผลิตจะสร้างโอกาสทำงานแก่ท้องถิ่น เพิ่มรายได้จากภาษี ขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ สร้างภาพลักษณ์ของวิสาหกิจจีนให้ดีขึ้น เป็นผลแบบวิน-วินของทั้งสองฝ่าย

อาเซียนเป็นเป้าหมายสำคัญของจีนในการดำเนินโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง จีนกับอาเซียนร่วมสร้างเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 มีพื้นฐานทางประวัติศาสตร์จากสมัยโบราณ และมีพื้นฐานหนาแน่นจากความร่วมมือระหว่างจีนกับอาเซียนในกว่า 20 ปีที่ผ่านมานี้ จึงเป็นความต้องการของทั้งสองฝ่ายที่มุ่งพัฒนาด้วยกันและได้รับผลประโยชน์ด้วยกัน

รอบ 3 ปีที่ผ่านมา โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางยังได้เชื่อมต่อกับแผนการพัฒนาของประเทศอาเซียนเอง เช่น โครงการสองระเบียงหนึ่งวงของเวียดนามและสี่ยุทธศาสตร์ของกัมพูชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กัมพูชากล่าวว่า ปัจจุบัน จีนเป็นคู่ค้าและแหล่งทุนอันดับแรกของกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายได้ขยายความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน พลังงานและทรัพยากร นอกจากนี้ ยังมีโครงการก่อสร้างท่าอากาศยาน ท่าเรือและทางหลวงจำนวนหนึ่งกำลังดำเนินการอยู่

Yim/Ping