นายพิริยะ เข็มพล เอกอัครราชทูตไทยประจำจีนให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอว่า ไทยมีคำกล่าวว่า "ความสามัคคีคือพลัง" 1 นิ้วมีกำลังไม่พอ มีเพียง 5 นิ้วที่จำกำเป็นกำปั้นได้เท่านั้น จึงจะมีกำลังเข้มแข็ง มีเพียงสามัคคีกันเท่านั้น จึงจะสร้างอนาคตที่ดีงามยิ่งๆ ขึ้นได้
นางวันดี พุดสวง เอกอัครราชทูตลาวประจำจีนระบุว่า ลาวมีว่า "ไม้ท่อนเดียวล้อมเป็นรั้วไม่ได้ คนคนเดียวสร้างความเจริญไม่ได้" ดั่งเช่นยุทธศาสตร์ "1 แถบ 1 เส้นทาง" ที่จีนริเริ่มนั้น มีเพียงทุกประเทศร่วมแรงร่วมใจกันเท่านั้น จึงจะเก็บเกี่ยวความเจริญรุ่งเรืองได้
นางเข็ก ไชมียลี สีโสดา เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำจีนระบุว่า คำพังเพยที่เธอชอบที่สุดคือ "ที่ไหนมีทาง ที่นั่นก็มีการพัฒนา" จีนให้ความช่วยเหลือแก่กัมพูชามากมาย ทั้งช่วยสร้างสะพาน ถนน โรงเรียน โรงพยาบาล และสถานีกำเนิดไฟฟ้าพลังน้ำ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาของกัมพูชา ทั้งนี้ก็เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงยุทธศาสตร์ "1 แถบ 1 เส้นทาง" ตามที่นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนกำหนด
นายโซเกง ราฮาร์ดโจ เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำจีนระบุว่า อินโดนีเซียมีคำพังเพยหนึ่งที่ตรงกับเจตนารมณ์ "1 แถบ 1 เส้นทาง" มาก นั่นก็คือ "มีเพียงความร่วมมือเป็นบ่อเกิดแห่งขุมพลัง" ซึ่งมักจะใช้กล่าวถึงตอนกำหนดแผนอนาคต ยุทธศาสตร์ "1 แถบ 1 เส้นทาง" มีขึ้นเพื่อรณรงค์ให้ประเทศที่เกี่ยวข้องสมัครสมานสามัคคีกัน เพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรืองด้วยกัน
นายโฮเซ่ แซนติอาโก สตา. โรมานา เอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำจีนระบุว่า มีความประทับใจเป็นพิเศษกับคำพังเพยของชาติที่ว่า "เหตุที่ไม้กวาดแข็งแรง ก็เพราะใบปาล์มถูกมัดรวมไว้แน่น" ซึ่งย้ำถึงความสำคัญของความสามัคคีเช่นกัน
และนายแด่ง มินห์ คอย เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำจีนหยิบยกบทกลอนของนายโฮจิมินห์ อดีตประธานาธิบดีเวียดนามมาอธิบายถึงเจตนารมณ์เส้นทางสายไหมว่า "เมื่อออกเดินทางจึงจะทราบความยากลำบาก นอกเทือกเขาทับซ้อนยังมีเทือกเขาทับซ้อน"
(YIM/LING)