หมู่บ้านตงชุนของอำเภอวั่นอัน มณฑลเจียงซีของจีนมีประชากรไม่ถึง 1,000 คน จนถึงปลายปีที่แล้ว มีประชากรยากจน 123 คนจาก 32 ครอบครัว ภายใต้การบุกเบิกและการช่วยเหลือจากนักธุรกิจมณฑลกว่างตง หมู่บ้านนี้จึงเริ่มปลูกสมุนไพรโชวู หรือภาษาจีนเรียกว่า "เหอโส่วอู" เนื่องจากมีที่ดินเหมาะสมเป็นพิเศษ หมู่บ้านตงชุนกำลังจะพัฒนาเป็นหมู่บ้านแห่งสมุนไพรโชวูของจีน

ช่วงเทศกาลตวนอู่ หรือเทศกาล" บ๊ะจ่าง" เป็นวาระที่ดีที่สุดสำหรับการปลูกสมุนไพรโชวู จึงเป็นช่วงที่ชาวบ้านยุ่งที่สุด นายกัว หงกัง เคยเป็นคนยากจนในหมู่บ้าน โดยมีนาข้าวจำนวนไม่มาก เมื่อปี 2014 นักธุรกิจจากมณฑลกว่างตงพบว่า ที่ดินในหมู่บ้านตงชุนเหมาะกับปลูกสมุนไพรโชวูอย่างมาก จึงแจกต้นกล้าสมุนไพรโชวูฟรีให้กับชาวบ้าน พร้อมสอนวิธีปลูกให้ด้วย กัว หงกัง เห็นว่าเป็นโอกาสที่ดี จึงเริ่มปลูกสมุนไพรโชวูที่นาของตน

เขากล่าวว่า "ผมได้ปลูกสมุนไพรโชวู 87.3 โหม่ว (5.82 เฮกตาร์) รวมถึงที่ดินที่เช่าจากคนอื่น ปกติจะมีคนมากที่สุด 70-80 คนมาทำงานในนาของผม หากปลูกข้าว จะมีกำไรแค่ 400-500 หยวนต่อโหม่ว แต่เมื่อปลูกสมุนไพรโชวูแล้ว จะมีรายได้ 3,000-4,000 หยวน ผมก็เป็นเจ้านายเกษตรกรแล้วด้วย"

สมุนไพรโชวูมีบทบาทช่วยบำรุงเส้นผมและกระดูก เก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุ 2 ปี มีวิธีปลูกง่ายกว่าข้าว และมีกำไรมากกว่า ชาวบ้านหลายคนในหมู่บ้านจึงเริ่มปลูกสมุนไพรโชวูกัน

เมื่อปี 2015 หมู่บ้านตงชุนได้จัดตั้งสหกรณ์สมุนไพรจีนคังไท่ ดึงดูดชาวบ้าน 45 ครอบครัวมาร่วมหุ้น โดยใช้งบการขจัดความยากจนทั้งหมด 100,000 หยวนในอำเภอ เท่ากับครอบครัวละ 2,200 หยวน นอกจากนี้ เกษตรกรบางคนยังร่วมหุ้นด้วยที่ดินของตนในมาตรฐานโหม่วละ 600 หยวน โดยพวกเขามีใบกรรมสิทธิ์หุ้นชัดเจน แบ่งปันกำไรตามหุ้นที่ถือ และไม่ต้องแบ่งปันความเสี่ยงด้านการดำเนินธุรกิจด้วย

ขณะเดียวกัน หมู่บ้านตงชุนยังมีฐานช่วยเหลือครอบครัวยากจนด้วยอุตสาหกรรมสมุนไพรโชวู โดยจะจ้างคนยากจนไปทำงาน รายได้รายวันอยู่ระหว่าง 80-120 หยวน

จนถึงปี 2017 หมู่บ้านตงชุนมีพื้นที่ปลูกสมุนไพรโชวู 33 เฮกตาร์ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เริ่มก่อสร้างโรงงานแปรรูปยาจีน เพื่อแปรรูปสมุนไพรโชวูในขั้นตอนแรก ช่วยประกันผลประโยชน์ของเกษตรกร และในเดือนสิงหาคมปีนี้ สมุนไพรโชวูที่ผลิตในหมู่บ้านตงชุนก็จะเข้าสู่ตลาดแล้ว