视频/泰国/女排队员
|
มหกรรมกีฬาของมวลมนุษย์ชาวอาเซียนกำลังจะถูกจัดขึ้นอีกครั้ง ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ หลายคนคงกำลังตื่นเต้นที่จะได้เฝ้ารอเฝ้าเชียร์ทีมชาติของตนผ่านจอโทรทัศน์ มือถือหรือแม้แต่ลงทุนเดินทางไปเชียร์ติดขอบสนาม ทัพนักกีฬาไทยเองก็กำลังเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะไปร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ สัมภาษณ์พิเศษชิ้นนี้ ทางทีมงาน CRI ได้รับโอกาสจากโค้ชด่วน - ดนัย ศรีวัชรเมธากุล โค้ชวอลเลย์บอลทีมชาติไทยได้เข้าไปชมการซ้อมที่สนามกีฬาการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท) และสัมภาษณ์ตัวแทนนักกีฬาไทย ขวัญใจคนทั้งโลก (ซึ่งต้องบอกว่าไม่เกินความจริงเลย เพราะเธอเคยขึ้นถึงตำแหน่งมือเซตอันดับหนึ่งของโลก) ที่มีดีทั้งฝีไม้ลายมือ หน้าตาที่น่ารัก รวมถึงความฉลาดและคิดบวก เธอคือ "ซาร่า- นุศรา ต้อมคำ" มือเซตอันดับหนึ่งของวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย
ซาร่า: สวัสดีค่ะ นุศรา ต้อมคำค่ะ นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ตำแหน่งตัวเซตค่ะ
ผู้สื่อข่าว CRI: ขออนุญาตเรียกชื่อเล่นว่า ซาร่านะคะ – นุศรามีชื่อเล่นว่านุศ แต่ส่วนมากแฟนคลับหรือในระดับสากลจะรู้จักเธอในชื่อ "ซาร่า" มาจากชื่อจริงว่า Nootsara (นุศรา)
ผู้สื่อข่าว CRI: ซาร่าเล่นวอลเลย์บอลมากี่ปีแล้วคะ แล้วคิดว่าวอลเลย์บอลมีความสำคัญกับซาร่ามากน้อยแค่ไหน
ซาร่า: อย่างตัวนุศเองนะคะ ก็เล่นวอลเลย์บอลมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ตอนนี้ก็อายุ 32 แล้ว ก็ประมาณ 22 ปี แล้วก็สำหรับตัวนุศเอง วอลเลย์บอลนั้นหมายถึง ตอนนี้ถ้าพูดถึงก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้วนะคะ ก็เหมือนกับข้าว ถ้าเราไม่ได้กินก็รู้สึกไม่อิ่มอ่ะค่ะ คือเราคิดว่า วอลเลย์บอลนี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนุชค่อนข้างมาก
ผู้สื่อข่าว CRI: ร่วมแข่งขันซีเกมส์มากี่ครั้งแล้ว และผลงานที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้างคะ
ซาร่า: ก็ตั้งแต่นุศติดทีมชาติมา ตอนนี้ซีเกมส์ก็เป็นครั้งที่ 7 ค่ะ
ก็ที่ผ่านมา ทุกครั้ง เราเป็นแชมป์ตลอด ครั้งนี้ก็คิดว่าครั้งนี้จะไปรักษาแชมป์อีกหนึ่งปีค่ะ
ผู้สื่อข่าว CRI: อยากให้พูดถึงกีฬาวอลเลย์บอลในเอเชียค่ะ ตอนนี้ทีมไหนฝีมือดี มีโอกาสและความสามารถในระดับโลกบ้างคะ
ซาร่า: ถ้าพูดถึง ให้พูดถึงระดับวอลเลย์บอลในเอเชีย ตอนนี้เราคิดว่าตอนนี้เราต้องยกให้จีนก่อนอ่ะค่ะ เพราะอย่างจีนเค้าประสบความสำเร็จในหลายรายการของระดับโลก อย่างที่แล้วเค้าก็ได้แชมป์โอลิมปิคมา เราก็ค่อนข้างที่จะชื่นชมเค้า ด้วยความที่เค้ามีสปิริตในการเล่นด้วย แล้วก็ อย่างตอนนี้ก็มีญี่ปุ่นนะคะ เค้าก็พัฒนาเรื่อยๆนะคะ ตอนนี้ก็มีคลื่นลูกใหม่มาเยอะแยะ ส่วนอย่างไทย ตอนนี้ก็คือเรามีน้องๆรุ่นใหม่ที่จะก้าวเข้ามาในสู้ระดับโลกเหมือนกัน เราก็เลยต้องเริ่มฝึกฝนที่อย่างหนัก แล้วก็เพื่อที่จะได้ไปแข่งขันในระดับโลกด้วย เจอทีมยุโรปด้วยแล้วก็หลายๆทีมอ่ะค่ะ
ผู้สื่อข่าว CRI: อย่างทีมไทย ถือว่าจริงๆแล้วก็ได้ขึ้นในระดับโลกเหมือนกัน แต่ว่าคนอื่นก็จะมองว่า ทีมไทยมาจากประเทศที่ไม่ได้ใหญ่แล้วทีมไทยก็ดูตัวเล็กๆ อยากให้พูดถึงข้อดีข้อเสียของทีมไทยค่ะ
ซาร่า: สำหรับทีมไทยนะคะ อย่างตัวนุศเอง ถ้าพูดถึงเมื่อก่อน ใครก็ชอบพูดว่า เฮ้ย ทีมไทยใครๆก็บอกว่าง่ายไม่ต้องซีเรียสมาก แต่ว่าพอมาระยะหลังๆ เราก็รู้สึกว่าทีมเรามีการพัฒนาขึ้นค่อนข้างมาก เราเล่นรูปแบบผสมค่อนข้างดีทำให้หลายทีมค่อนข้างที่จะแบบ ตอนนี้ เอ้ย มองข้ามเราไม่ได้แล้วนะ เวลาเจอทีมไทยเค้าต้องศึกษาเกมส์เราให้มาก เพราะว่าเรามีรูปแบบการผสมที่สวยงาม แล้วก็เร็ว แล้วก็ทีมเวิร์คเราดีด้วยค่ะ
ผู้สื่อข่าว CRI: ขนาดส่วนสูง รูปร่าง เป็นอุปสรรคต่อทีมไทยไหมคะ
ซาร่า: จริงๆถ้าถามว่ารูปร่างเรา นุศว่าเราเป็นทีมที่เสียเปรียบค่อนข้างมาก เพราะว่าเราเจอทีมที่สูงกว่าเรา เราบล็อก เราจะเสียเปรียบทางด้านบล็อก แต่เรามีการดีเฟ้นท์ (ป้องกัน) ที่ค่อนข้างดี เรามีทีมเวิร์คที่ค่อนข้างดี และมีการรุกกลับที่ค่อนข้างดี ทำให้เราสามารถเล่นกับเค้าได้ง่ายขึ้นค่ะ
ผู้สื่อข่าว CRI: เป็นนักกีฬา ซ้อมหนักมาก แต่ว่าเวลาไปแข่งขัน ไม่ใช่ทุกแมทช์ที่จะชนะ เวลาที่ท้อแท้ใจผิดหวัง ใช้วิธีคิดอย่างไร หรือว่ามีอะไรเป็นส่วนให้กำลังใจ
ซาร่า: อย่างทีมไทยเราต้องบอกว่า เราแพ้มากกว่าที่จะชนะ ในวันที่เราชนะ จะเป็นวันที่แบบเรามีความสุขมาก คนไทยทั้งประเทศมีความสุขมาก แต่ในวันไหนที่เราแพ้ ในแมทช์ที่สำคัญ โดยเฉพาะในแมทช์ที่เราคาดหวังไว้เยอะแล้วเราแพ้ เราก็คิดว่า อันดับแรกเรามองหน้ากันทุกคน เพราะทุกคนผิดหวังด้วยกันหมด แต่เราคิดว่า เฮ้ย เราผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะ เราซ้อมหนักมาก แล้วสิ่งที่เรา ในแมทช์นั้น เราเล่นเต็มที่แล้ว มันเลยทำให้เราคิดว่า เฮ้ย เราเต็มที่ไปแล้วนะ เราเลยไม่เสียดาย ไม่เสียใจ ในวันที่แพ้เรามีเพื่อนร่วมทีม มีสตาฟโค้ช มีพ่อแม่ มีคนไทยทุกคนให้กำลังใจเรา ทำให้เราสามารถว่า อีกวันข้างหน้าเรามีแมทช์ต่อ เราต้องผ่านวันนี้ไปให้ได้นะ เราต้องแบบ คือมันต้องเข้มแข็งและต้องอดทนอ่ะค่ะ เพราะว่ามันไม่ใช่แมทช์นี้แมทช์เดียวที่จะเป็นตัวตัดสินเราว่า เราจะแพ้ทั้งชีวิต หรือจะแพ้ตลอดแมทช์ มันไม่ใช่ เรามีแมทช์อื่นที่รอเราอยู่
ผู้สื่อข่าว CRI: ขอกลับมาถึงเรื่องการเล่นวอลเลย์บอลอาชีพของซาร่าบ้างค่ะ ล่าสุดไปเล่นที่ลีคของตุรกี เป็นอย่างไรบ้างคะ
ซาร่า: ใช่ค่ะ แต่ตอนนี้หมดสัญญาแล้วค่ะ กำลังดูว่าอยากจะเล่นในลีคของเอเชียบ้าง อย่างญี่ปุ่นหรือจีนก็น่าสนใจ สำหรับญี่ปุ่นคือลีคเค้ามีความเป็นมาตรฐาน มีฐานผู้ชมหนาแน่น ส่วนจีน อย่างที่บอกว่าจีนเป็นมหาอำนาจในการกีฬา และตอนนี้วอลเลย์บอลของจีนก็กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ ซาร่าเองก็มีความสนใจจะไปเล่นที่ประเทศจีนอยู่เหมือนกันค่ะ
ผู้สื่อข่าว CRI: คิดว่ากีฬาวอลเลย์บอลนี้มีส่วนช่วยให้คนเราเป็นเพื่อนกัน ส่งเสริมมิตรภาพกันอย่างไรบ้างคะ
ซาร่า: ก็จริงๆสำหรับตัวนุศเอง นุศมองว่า ถ้าให้เปรียบเทียบวอลเลย์บอลและสำหรับเพื่อน นี้คือ เป็นสิ่งที่ดีมากแล้วก็เป็นสิ่งที่เราคิดว่า มันทำให้คนไม่รู้จักกัน ก็ได้มารู้จักกัน เป็นเพื่อน ได้ความสนิทสนม เหมือนเราได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันด้วย มันไม่ใช่แบบว่า เราเห็นกันแล้วอีกฝั่งก็อีกทีมนี้ มันเป็นศัตรูกันแค่ในสนามแต่นอกสนามเราคือเพื่อนกัน ไอ้นี่มันเป็นมิตรภาพที่ดีมาก เป็นมิตรภาพที่สวยงาม นุศก็เลยแบบที่จะชื่นชอบที่แบบ การกีฬาทำให้คนที่ไม่รู้จักกันมารู้จักกัน แล้วก็มีมิตรภาพดีๆเกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าว CRI: เกี่ยวกับเรื่องในทีม เคยได้ยินมาว่าถ้าเป็นไปได้ก่อนแข่ง นักกีฬาก็ไม่จำเป็นจะต้องโทรม
ซาร่า: อย่างนักกีฬาอย่างทีมไทย เราก็เป็นทีมที่ค่อนข้างที่จะอากาศร้อนเนอะ เหงื่อออกง่าย เราก็ต้องแบบเวลาเราหน้าแบบมันๆโทรมๆ เวลาไปเห็นเราออกทีวีมันก็จะดูแบบ เฮ้ย อะไรทำไม คนไทย ทำไมหน้าตาเป็นงี้ เราก็จะเน้นว่า เออ เนอะ ทาแป้งลงไปหน่อยนะ กลบความมันเวลาหน้าเราออกทีวี ปาก เวลาเราเหนื่อยปากก็อย่าให้ซีด ก็เติมปากเข้าไป ผมเผิมอย่าให้รกรุงรัง ทำไงก็ได้ให้สวยงาม คือเราก็จะเน้นน้องๆ แต่ว่าเราไม่ต้องแบบว่าจะต้องแต่งหน้าจัดขนาดนั้น ปัดมาสคาร่า หรือว่าอะไรแบบนี้อ่ะค่ะ แต่เราจะแบบ ทำให้แบบดูดีๆนิดนึง เพราะว่าเราคิดว่า นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรามั่นใจขึ้นเวลาเราเล่น ถ้าเรามัดผมไม่ดีเราก็มัวแต่มาจับผม ปากเราซีดๆ เราดูนี่เราไม่ค่อยมั่นใจ เราดูนี่เราก็จะ เฮ้ย เรามัวแต่กัดปากพะว้าพะวง แทนที่เราจะเอาเวลาส่วนนี้ไปคิดว่าเราจะทำยังไง เล่นยังไงมากกว่า ทำให้เราแบบ เป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆ แต่เราก็ไม่ได้มองข้ามจุดนี้อ่ะค่ะ
ผู้สื่อข่าว CRI: "Rising Together - ก้าวหน้าไกลไปด้วยกัน" คือคำขวัญหรือ Motto ของงานซีเกมส์ในครั้งนี้ วอลเลย์บอลที่เชื่อมโยงมากับคำขวัญประโยคนี้ค่ะ
ซาร่า: อย่างเราต้องบอกว่า ซีเกมส์เป็นมหกรรมกีฬา คือทุกประเภทกีฬาจะไปแข่งในหนึ่งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนในเอเชีย อย่างทุกประเภทน่ะ เราได้เจอกันเรามีจุดหมายเดียวกันคือชัยชนะแต่นอกเหนือจากชัยชนะ คือมิตรภาพ คือสิ่งที่ดีๆ เพราะว่าเราคิดว่า ของทุกเส้นทางของทุกการกีฬาคือมิตรภาพ เพราะเราคิดว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะว่าหลังจากที่เราแข่งขันเสร็จ ทุกคนเราจะกลับมาเป็นเพื่อนกัน
อย่างรายการซีเกมส์นี้นะคะไม่ใช่เพื่อการแข่งขันอย่างเดียว มันเป็นการที่นักกีฬาทุกคนมุ่งเป้าหมายไปที่ชัยชนะ แต่เฉพาะในเกมส์นะคะ แต่ว่านอกสนามทุกคนก็สามารถนำพาในโซนของเอเชียก้าวไปสู่ระดับโลก เหมือน Rising Together อ่ะค่ะ
เรียบเรียงและรายงาน: ลู่ หย่งเจียง
ภาพ: พันธสัญญา โชติธนพุทธิพงษ์