ประธานาธิบดีจีนระบุในคำปราศรัยว่า "สาเหตุที่ความร่วมมือบริกส์พัฒนาอย่างรวดเร็ว ที่สำคัญก็เพราะช่องทางความร่วมมือมาถูกทาง ก็คือ เคารพกัน ช่วยเหลือกัน จับมือกันเดินตามหนทางการพัฒนาที่ตรงกับสภาพของประเทศ รวมถึงเชิดชูเจตนารมณ์แห่งการเปิดเสรี ผนึกกำลัง ให้ความร่วมมือ และได้ประโยชน์ด้วยกันอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรม ตลอดจนชักนำการสร้างความเป็นธรรมความเที่ยงธรรมของโลก ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ด้วยความจริงใจ ร่วมกันสร้างบรรยากาศภายนอกที่ดี"
ทั้งนี้ นายกัว เซิงเสียง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยการเงินและการสร้างสรรค์ออสเตรเลียเห็นด้วย และระบุว่า 5 ประเทศสมาชิกบริกส์มาจากทวีปที่ต่างกัน มีทรัพยากรที่ต่างกัน และหนทางการพัฒนาที่ต่างกัน แต่อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาที่คล้ายกัน ระหว่างการพัฒนา ไม่เพียงแต่จะเกื้อกูลกันด้านทรัพยากรเท่านั้น หากยังจะแลกเปลี่ยนเรียนรู้หนทางและรูปแบบการพัฒนาของกันและกันด้วย
ประธานาธิบดีจีนย้ำว่า "ความร่วมมือที่เห็นผลจริงเป็นรากฐานแห่งความร่วมมือบริกส์ ซึ่งประสบผลสำเร็จมากมาย และยังมีศักยภาพอีกมาก สถิติระบุว่า การลงทุนในต่างประเทศของกลุ่มบริส์เมื่อปี 2016 เป็นเงิน 197,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีเพียงร้อยละ 5.7 เท่านั้นที่เกิดขึ้นภายใน 5 ประเทศกลุ่มบริกส์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า 5 ประเทศบริกส์ยังมีโอกาสร่วมมือกันอีกมาก"
ทั้งนี้ นายโรเบิรต์ ลอวเรนซ์ คูห์น (Robert Lawrance Kuhn) ประธานกองทุนคูห์นสหรัฐอเมริการะบุว่า ทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศกลุ่มบริกส์ได้ดำเนินงานหลายอย่างสำเร็จลุล่วง เช่น การก่อตั้งธนาคารเพื่อการพัฒนาใหม่ (New Development Bank) โดยมุ่งลงทุนโครงการสีเขียวและประหยัดพยังงาน สร้างโครงสร้างที่ดีที่สุดเพื่ออนาคต
ประธานาธิบดีจีนยังระบุด้วยว่า "ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกและสลับซับซ้อนในขณะนี้ ความร่วมมือในกลุ่มบริกส์มีความสำคัญกว่าเดิม ประชาชน 5 ประเทศต้องการให้เราจับมือกันส่งเสริมการพัฒนา ยกระดับความสุขของประชาชนให้สูงขึ้น ประชาคมโลกคาดหวังให้เรารักษาสันติภาพของโลก และเดินหน้าพัฒนาด้วยกัน"
ทั้งนี้ นายไก้ หลิน เลขาธิการคณะมิตรภาพยุโรป-จีนแห่งสภายุโรปเห็นว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ด้วยสาเหตุต่างๆ ประเทศพัฒนาไม่สามารถนำพาประเทศอื่นๆ ก้าวออกจากเงามืด ในทางตรงกันข้าม 5 ประเทศบริกส์ในฐานะประเทศเศรษฐกิจใหม่ได้อุทิศกำลังมากมายเพื่อการพัฒนาของโลก
(IN/LING)