สำนักข่าวซินหวารายงานว่า เมื่อวันที่ 4 กันยายนที่เมืองเซี่ยเหมิน นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนพบเจรจากับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย ซึ่งเดินทางมาร่วมการประชุมระหว่างประเทศตลาดเกิดใหม่กับประเทศกำลังพัฒนา

นายสี จิ้นผิงเน้นว่า จีนไทยเป็นเสมือนญาติในครอบครัว ประชาชน 2 ประเทศสนิทกันดั่งพี่น้องกัน ในฐานะมิตรประเทศเพื่อนบ้านของไทย จีนให้ความสำคัญระดับสูงต่อการพัฒนาความสัมพันธ์กับไทย ยินดีเคารพการตัดสินใจของประเทศไทยในการเลือกหนทางการพัฒนาที่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของประเทศเหมือนดั่งที่แล้วๆ มา และสนับสนุนไทยให้แสดงบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในภารกิจระดับสากลและระดับภูมิภาค ส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างจีน-ไทยให้พัฒนาอีกขั้น สองฝ่ายต้องรักษาการติดต่อระหว่างผู้นำระดับสูงอย่างใกล้ชิด เคารพและใส่ใจผลประโยชน์และความสนใจสำคัญที่สุดของกันและกัน จีนชื่นชมที่ไทยเข้าร่วมความร่วมมือการสร้าง "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" อย่างแข็งขัน ยินดีจะจับมือกับไทย ปฏิบัติตาม "บันทึกความตกลงว่าด้วยการร่วมกันผลักดันการสร้างสรรค์หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ให้ดีและ "แผนปฏิบัติการร่วมเพื่อเดินหน้าความร่วมมือเชิงยุทธศาตร์" ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ส่งเสริมความร่วมมือในด้านการลงทุน การรถไฟ การเงินทางอินเตอร์เน็ต เศรษฐกิจดิจิทัล และอี-คอมเมิร์ซ เป็นต้น เพิ่มการไปมาหาสู่กันของบุคลากร 2 ประเทศ กระชับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและการแลกเปลี่ยนระดับท้องถิ่น ตอกย้ำความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะความร่วมมือเพื่อปราบปรามการก่อการร้าย จีนกับไทยควรลงลึกการประสานงานภายในกรอบความร่วมมือพหุภาคี เช่น สหประชาชาติ การเจรจาความร่วมมือระหว่างประเทศเอเชีย และองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก สร้างคุณูปการต่อการรักษาสันติภาพ ความมั่นคงและการพัฒนาของภูมิภาคและของโลกอย่างแข็งขัน

ปธน.จีนระบุว่า ปีนี้เป็นวาระครบ 50 ปีการสถาปนาอาเซียน ปีหน้าเป็นวาระครบ 15 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ฉันหุ้นส่วนยุทธศาสตร์จีน-อาเซียน จีนปรารถนาให้ไทยแสดงบทบาทที่มีเอกลักษณ์ ผลักดันความร่วมมือประเทศลุ่มแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขงและความสัมพันธ์จีน-อาเซียนให้ขึ้นสู่ระดับสูงอย่างต่อเนื่อง

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชากล่าวว่า ไทยยินดีจะจับมือกับจีน รักษาการติดต่อของผู้นำระดับสูง กระชับความร่วมมือทวิภาคีและพหุภาคี ส่งเสริมความเชื่อถือกันทางการเมือง ขยายการไปมาหาสู่กันทางเศรษฐกิจและการค้า ส่งเสริมการลงทุนระหว่างกัน เพิ่มการแลกเปลี่ยนบุคลากร กระชับความร่วมมือด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ไทยสนับสนุนและยินดีจะมีส่วนร่วมในข้อเสนอหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง และความร่วมมือแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขงที่รัฐบาลจีนเสนอเพื่อส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน

หลังการพบเจรจา ผู้นำ 2 ประเทศร่วมกันเป็นสักขีพยานการลงนามในแผนปฏิบัติการร่วมเพื่อความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ เอกสารความร่วมมือทวิภาคีเกี่ยวกับการสร้างหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง โครงการรถไฟ เป็นต้น

IF