สำนักข่าวซินหวารายงานว่า เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ นายหลี เป่าตง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายเฉิน เสี่ยวกวาง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายหวาง โซ่วเหวิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์จีนร่วมแถลงข่าวเกี่ยวกับการเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปคครั้งที่ 25 ที่เมืองดานังประเทศเวียดนาม และเยือนเวียดนาม ลาวอย่างเป็นทางการของนายสี จิ้นผิง เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ และประธานาธิบดีจีน
สำหรับการเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปคครั้งที่ 25 นายหลี่ เป่าตง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปคครั้งที่ 25 ที่เมืองดานังประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 10-11 พฤศจิกายนนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ผู้นำจีนเข้าร่วมการประชุมพหุภาคีระหว่างประเทศ หลังเสร็จสิ้นการประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 19 จึงมีความหมายสำคัญยิ่ง และได้รับความสนใจอย่างมากจากประชาคมโลก การที่ผู้นำจีนเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปคครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า จีนให้ความสำคัญในระดับสูงมากต่อการกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก ช่วงเวลาที่ร่วมการประชุมผู้นำเอเปค ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงจะกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมผู้นำวงการอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมเอเปค จะเข้าร่วมการประชุมผู้นำอย่างไม่เป็นทางการสองครั้ง และงานเลี้ยงอาหารเที่ยง อีกทั้งยังจะพบปะกับผู้นำสมาชิกเอเปคหลายคนด้วย
นายหลี่ เป่าตงกล่าวว่า หัวข้อหลักของการประชุมผู้นำเอเปคครั้งนี้คือ "สร้างแรงขับเคลื่อนใหม่ ร่วมกันบุกเบิกและรับประโยชน์ในอนาคต" ผู้นำและตัวแทนของเขตเศรษฐกิจต่างๆ จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในระดับลึกเกี่ยวกับประเด็นที่น่าสนใจต่างๆ เช่น ความเป็นหนึ่งเดียวทางเศรษฐกิจในภูมิภาค การพัฒนาที่เกื้อกูลกัน การเติบโตด้วยนวัตกรรม การเชื่อมโยงกัน ความปลอดภัยด้านการเกษตรและธัญญาหาร สำหรับความคิดเห็นพ้องกันที่เกิดจากการประชุมครั้งนี้จะบรรจุไว้ในปฏิญญาว่าด้วยการประชุมผู้นำเอเปคครั้งที่ 25 จีนในฐานะสมาชิกเอเปค สนับสนุนเวียดนามในการจัดการประชุมผู้นำเอเปคครั้งนี้ และมีความปรารถนาที่จะให้การประชุมครั้งนี้ประสบความสำเร็จในด้านดังต่อไปนี้คือ ประการแรก ร่วมกันรักษาแนวทางการพัฒนาที่เปิดกว้างในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค ส่งสัญญาณที่ถูกต้องให้แก่ภายนอก เพิ่มพลังทางบวกให้แก่เศรษฐกิจโลกลักษณะเปิดกว้าง ประการที่สอง ร่วมกันสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่แก่การพัฒนาของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ขับเคลื่อนและปฏิบัติตามแผนการเชื่อมโยงในด้านต่างๆ ในเอเชีย-แปซิฟิค ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจภาคจริงของสมาชิกต่างๆ และประการสุดท้าย ร่วมกันวางแผนความร่วมมือในวันข้างหน้า โดยจีนจะร่วมมือกับทุกฝ่ายต่อไป ผลักดันการพัฒนาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิคให้เป็นไปอย่างมั่นคง ส่งเสริมการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคและของโลก
ขณะที่นายหวาง โซ่วเหวิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวว่า คาดว่าการประชุมผู้นำเอเปคครั้งนี้จะประสบความสำเร็จด้านเศรษฐกิจและการค้าดังต่อไปนี้ คือ ประการแรก ผลักดันความคล่องตัวทางการค้าในทุกด้าน อนุมัติกรอบอำนวยความสะดวกแก่อีคอมเมิร์ซข้ามชาติเอเปค ร่างกรอบตรวจสอบแผนปฏิบัติการเกี่ยวกับการเชื่อมโยงทางด้านห่วงโซ่อุปทานเอเปค ส่งเสริมความร่วมมือด้านธุรกิจบริการในทุกด้าน ประการที่สอง พยายามทำให้ผลการประชุมปักกิ่งปรากฏเป็นจริงขึ้น โดยขับเคลื่อนการพัฒนาเขตการค้าเสรีในเอเชีย-แปซิฟิค และผลักดันความร่วมมือด้านห่วงโซ่มูลค่าโลกให้ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ลงลึกความร่วมมือด้านด่านศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์ และห่วงโซ่อุปทานสีเขียว ประการสุดท้าย ส่งสัญญาณที่สนับสนุนระบบการค้าแบบพหุภาคี
เกี่ยวกับการเดินทางไปเยือนเวียดนามและลาวอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นายเฉิน เสี่ยวตง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า นายสี จิ้นผิง เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ ประธานาธิบดีจีนจะเดินทางไปเยือนเวียดนามและลาวอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 12-14 พฤศจิกายนนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ผู้นำสูงสุดของพรรคและรัฐจีนเดินทางไปเยือนต่างประเทศหลังเสร็จสิ้นการประชุมสมัชชาพรรคครั้งที่ 19 และนับเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ในการดำเนินนโยบายการทูตที่มีเอกลักษณ์ของจีนในศักราชใหม่เกี่ยวกับการพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศรอบข้าง การเยือนต่างประเทศครั้งแรก หลังเสร็จการประชุมสมัชชาพรรคของนายสี จิ้นผิง เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ และประธานาธิบดีจีนก็เลือกเดินทางไปเยือนเวียดนาม และลาว ทั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า จีนให้ความสำคัญในระดับสูงมากต่อการกระชับมิตรสัมพันธ์ระหว่างจีน-เวียดนาม และจีน-ลาว รวมทั้งความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับสองประเทศนี้ พรรคและรัฐบาลของเวียดนามและลาวให้ความสำคัญอย่างสูงต่อการเยือนของนายสี จิ้นผิงครั้งนี้เช่นกัน และกำลังรอคอยการไปเยือนของเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรค และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
นายเฉิน เสี่ยวตงยังกล่าวว่า การเยือนเวียดนามครั้งนี้เป็นการเยือนซึ่งกันและกันระหว่างผู้นำสูงสุดของพรรคและรัฐจีน-เวียดนามภายในปีนี้ ช่วงเยือนเวียดนาม นายสี จิ้นผิง เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะพบเจรจากับนายเหวียน ฝู จ่อง (Nguyen Phu Trong) เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ นายเจิ่น ดั่ย กวาง(Tran Dai Quang) ประธานาธิบดี นายเหวียน ซวน ฟุก (Nguyen Xuan Phuc) นายกรัฐมนตรี และนางเหวียน ถิ กิม เงิน (Nguyen Thi Kim Ngan) ประธานสภาแห่งชาติเวียดนามตามลำดับ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นสำคัญสำคัญต่างๆ เช่น ลงลึกการประสานยุทธศาสตร์ระหว่างพรรคและรัฐสองประเทศ เพิ่มการแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับประสบการณ์ในการบริหารพรรคและบ้านเมือง ส่งเสริมการประสานยุทธศาสตร์การพัฒนาสำคัญ บุกเบิกความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม ขยายการแลกเปลี่ยนบุคลากรและวัฒนธรรม หารือในปัญหาระหว่างประเทศทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลก รวมทั้งจะวางแผนแนวทางการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในศักราชใหม่
สำหรับการเยือนประเทศลาวครั้งนี้เป็นการเยือนลาวอีกครั้งของผู้นำสูงสุดจีนหลังเว้นไป 11 ปี ระหว่างการเยือน นายสี จิ้นผิง เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะพบเจรจากับพันเอกบุนยัง วอละจิด เลขาธิการพรรคประชาชนปฏิวัติ และประธานประเทศ นายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรี และนางปราณี ยาท่อตู้ ประธานสภาแห่งชาติลาวตามลำดับ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในระดับลึกเกี่ยวกับประเด็นที่สำคัญต่างๆ เช่น เชิดชูส่งเสริมมิตรสัมพันธ์ที่มีมาช้านาน เพิ่มความไว้เนื้อเชื่อใจทางการเมือง กระชับการแลกเปลี่ยนทางยุทธศาสตร์ ลงลึกความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม วางแผนแนวทางการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ลาวในศักราชใหม่
ผู้นำพรรคและรัฐสองประเทศยังจะร่วมกันเข้าร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนลาว ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับความช่วยเหลือจากจีน
ช่วงเยือนเวียดนามและลาว จีน-เวียดนาม และจีน-ลาวจะบรรลุข้อตกลงสำคัญหลายฉบับ เชื่อมั่นว่า การเยือนของนายสี จิ้นผิงครั้งนี้จะเพิ่มพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-เวียดนาม จีน-ลาว ตอลดจนความร่วมมือที่อำนวยประโยชน์แก่กัน และได้ชัยชนะร่วมกันระหว่างจีนกับกลุ่มประเทศอาเซียนในศักราชใหม่
(YIM/cai)