สถานีวิทยุซีอาร์ไอรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา ดร.โภคิน พลกุล นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีนที่กำลังร่วมการประชุมระดับสูงเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์จีนกับพรรคการเมืองทั่วโลก ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงปักกิ่ง ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุซีอาร์ไอว่า ภาระหน้าที่ของพรรคการเมืองคือ การสร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชน การที่นายสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ริเริ่มให้สร้างประชาคมมนุษย์ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขได้ต่อที่ประชุมนั้น มีวัตถุประสงค์ที่จะให้มวลมนุษยชาติได้ประโยชน์จากกระบวนการโลกาภิวัตน์
ดร.โภคิน พลกุล ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย อดีตประธานรัฐสภา และอดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคำริเริ่มของสี จิ้นผิง ว่า
"คำริเริ่มของนายสี จิ้นผิง ถูกต้องมาก การที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนริเริ่มให้สร้างประชาคมมนุษย์ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของพรรคการเมืองทุกพรรคที่มีหน้าที่บริการและสร้างความผาสุกให้แก่ประชาชน นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ประชาชนทั่วโลกได้เผชิญกับสงครามและเหตุการณ์ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวโลกนับไม่ถ้วน ด้วยเหตุนี้ ประชาชนประเทศต่างๆ ทั่วโลกจึงไม่เห็นด้วยกับการทำสงคราม และเรียกร้องให้ได้มาซึ่งสันติภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สันติภาพที่ถาวร นับเป็นการพัฒนาที่ยังยืนโดยแท้
ผมคิดว่า กระบวนการโลกาภิวัตน์ ความไม่สมดุลของการค้าเสรี และสถานการณ์ความไม่เป็นธรรม ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยเพิ่มมากขึ้น พรรคคอมมิวนิสต์จีน นำโดยนายสี จิ้นผิง เสนอคำริเริ่มดังกล่าว โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะทำให้โลกาภิวัตน์มีความเที่ยงธรรมมากขึ้น และทำให้ชาวโลกได้รับประโยชน์โดยทั่วกัน สิ่งนี้คือประเด็นปัญหาที่ทุกพรรคการเมืองให้ความสำคัญเป็นพิเศษเช่นกัน และต้องการให้ได้รับการแก้ไขด้วยดี ทุกพรรคการเมืองควรรับภาระหน้าที่อันนี้ร่วมกัน"
ดร.โภคิน พลกุล ยังกล่าวต่อว่า
"การประชุมระดับสูงเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์จีนกับพรรคการเมืองทั่วโลกครั้งนี้มีความหมายเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่ามีผู้นำของหลายร้อยพรรคการเมืองจากกว่า 100 ประเทศเดินทางมาร่วมการประชุมครั้งนี้ ทำให้ทุกพรรคการเมืองมีโอกาสศึกษาเรียนรู้ซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีโอกาสศึกษาเรียนรู้จากผลสำเร็จของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ช่วงเวลาประมาณ 40 ปีที่จีนดำเนินนโยบายการปฏิรูปและเปิดประเทศ จีนจากประเทศที่ล้าหลัง ก้าวขึ้นเป็นประเทศชั้นนำในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา และเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลก เป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นศักยภาพของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในการปกครองบริหารประเทศ พรรคเพื่อไทยจะศึกษาเรียนรู้ประสบการณ์ที่สำเร็จจากจีน โดยพิจารณาถึงสภาพความเป็นจริงของไทย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับการส่งเสริมการพัฒนาประเทศไทยในที่สุด"
(Ora/cai)
