แขกผู้มีเกียรติร่วมงานสัมมนาในหัวข้อ "ทิศทางนโยบายของจีน ภายใต้มติสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนสมัยที่ 19"
สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน กระทรวงวิเทศสัมพันธ์ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย จัดงานสัมมนาในหัวข้อ "ทิศทางนโยบายของจีน ภายใต้มติสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนสมัยที่ 19" โดยได้รับเกียรติจากนายเมิ่ง เสียงเฟิง รองเลขาธิการของคณะกรรมการการทำงานขององค์กรที่ขึ้นตรงต่อศูนย์กลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน รองผู้อำนวยการของสำนักงานทั่วไปแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนมาเป็นวิทยากร พร้อมด้วยนายหลูย์ เจี้ยน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ร่วมรับฟังการสัมมนาในครั้งนี้ โดยงานจัดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2561 ที่โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด ถนนรัชดา
ดร.โภคิน พลกุล นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน กล่าวต้อนรับและเปิดการสัมมนา
ดร.โภคิน พลกุล นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน กล่าวต้อนรับและเปิดการสัมมนาว่า เป็นที่ทราบกันทั่วไปแล้วว่าในช่วงเดือนตุลาคมของปีที่ผ่านมา พรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเป็นองค์กรนำสูงสุดของรัฐบาลจีน ได้ถึงวาระการจัดประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 19 โดยมีนายสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นศูนย์กลางการนำเป็นสมัยที่2 แม้ว่าเป็นการประชุมของผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีน แต่ผลการประชุมไม่เพียงแค่มีผลต่อประเทศจีนเท่านั้น ยังส่งผลกว้างขวางต่อประเทศต่างๆ และประชาชาติต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะภูมิภาคและกลุ่มอาเซียน รวมถึงประเทศไทย และเชื่อมั่นว่าการสัมมนาวันนี้จะอำนวยประโยชน์แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศด้วย
- ดร.โภคิน พลกุล นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน (คนที่ 2 จากซ้าย)
- นายเมิ่ง เสียงเฟิง รองเลขาธิการของคณะกรรมการการทำงานขององค์กรขึ้นตรงต่อศูนย์กลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน รองผู้อำนวยการของสำนักงานทั่วไปแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน (คนกลาง)
- นายหลูย์ เจี้ยน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย (คนที่ 2 จากขวา)
นายเมิ่ง เสียงเฟิง รองเลขาธิการของคณะกรรมการการทำงานขององค์กรขึ้นตรงต่อศูนย์กลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน รองผู้อำนวยการของสำนักงานทั่วไปแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนกล่าวในการสัมมนาว่า ในฐานะที่เป็นผู้แทนของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เข้าร่วมประชุมสมัชชา 19 ได้สรุปผลงานจากการประชุมว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ภายใต้สถานการณ์ที่ทั่วโลกมีการชะงักในด้านการเติบโตของเศรษฐกิจ แต่ประเทศจีนมีการพัฒนาด้านนี้อยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศมีมูลค่าเพิ่มจาก 54 ล้านล้านหยวน เป็น 80 ล้านล้านหยวน และแก้ปัญหาให้ประชาชนมีงานทำกว่า 65 ล้านคน จำนวนนี้เท่ากับประชากรทั้งหมดของประเทศอิตาลี ด้านการประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ทางการปฏิรูปและการพัฒนาประเทศมาจากความเข้มแข็งของท่านสี จิ้นผิง หัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์จีน และขึ้นอยู่กับการชี้นำเชิงวิทยาศาสตร์ตามแนวความคิดสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์ยุคใหม่ของจีน ซึ่งยึดถือเป็นคู่มือในการปฏิบัติของพรรคฯ และบรรลุให้อยู่ในธรรมนูญ เป็นแนวคิดชี้นำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยที่ท่านสี จิ้นผิง เป็นผู้อุทิศหลักนโยบายทางการปฏิบัติตามหลักของประชาชาติจีน ฟื้นฟูความสำเร็จ เปรียบเสมือนเป็นเข็มทิศนำทางประเทศจีนไปสู่หนทางที่ดีขึ้นอีกด้วย โดยยึดหลักที่ว่า "ในอดีตเน้นแก้ปัญหาที่มีหรือไม่มี แต่อนาคตเน้นแก้ปัญหาที่ดีหรือไม่ดี"
นายเมิ่ง เสียงเฟิง รองเลขาธิการของคณะกรรมการการทำงานขององค์กรขึ้นตรงต่อศูนย์กลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน
รองผู้อำนวยการของสำนักงานทั่วไปแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ในช่วงท้ายนายเมิ่ง เสียงเฟิง ยังได้ฝากให้ติดตามการทำงานของพรรคคอมมิวนิสต์จีนต่อไป เพราะทุกๆ ปีจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล
------------------------------------------------
ยุพินวดี คุ้มกลัด เรียบเรียงและถ่ายภาพ
ณจักร วงษ์ยิ้ม ถ่ายภาพ