แต่การออกกำลังกายก็ควรปฏิบัติตามหลักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญเสนอว่า การออกกำลังกายต้องคัดเลือกรูปแบบที่เหมาะกับสภาพร่างกายของตน ซึ่งแต่ละคนคงไม่เหมือนกัน อย่าเล่นกีฬาที่แรงเกินไปหรือเกินกว่าที่ร่างกายทนได้
กีฬาที่เหมาะสมสำหรับคนหนุ่มสาวรวมถึง การเดิน การวิ่ง การขึ้นบันได และการขี่จักรยาน เป็นต้น สิ่งที่น่าสังเกตคือ การเดินควรเดินติดต่อกันเป็นเวลา 30 นาทีขึ้นไป หากน้อยกว่านี้จะไม่ได้ผล การออกกำลังกายควรเป็นช่วงเช้า ก่อนนอน หรือหลังอาหารครึ่งชั่วโมง หากอากาศดี ควรออกกำลังกายกลางแจ้งดีกว่า สำหรับคนที่ชอบออกกำลังกายในศูนย์ฟิตเนส ผู้เชี่ยวชาญเสนอว่า ควรอุ่นเครื่องให้ดีก่อน อย่ารีบไปเล่นกีฬาที่ต้องใช้แรงมาก และควรยืนหยัดวันละอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
สำหรับผู้สูงอายุ รูปแบบการออกกำลังกายควรต่างกับพวกวัยรุ่น รูปแบบที่ดีสุดก็คือการเดินเล่น โดยเฉพาะเดินเล่นในสวนสาธารณะ ผู้สูงอายุจำนวนหนึ่งชอบปีนเขา แต่ต้องระวังความปลอดภัย เวลาออกกำลังกายที่ดีที่สุดคือ ช่วงเช้า และช่วงบ่าย 5-6 โมง ในวันอากาศดี เดินกลางแจ้งดีกว่า แต่ถ้าอากาศไม่ดี เช่น ฝนตก ลมแรง หรือมีหมอกควัน ก็ควรออกกำลังกายในร่ม
ขณะอากาศไม่ดี โดยเฉพาะเกิดหมอกควัน จะทำให้การทำงานของระบบหายใจเสื่อมลง มลพิษในอากาศจะเข้าสู่ระบบหายใจมากกว่าปกติ บวกกับความกดอากาศค่อนข้างต่ำ ผู้สูงอายุที่มีความดันโลหิตสูงหรือโรคหัวใจก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการเจ็บหน้าอกหรือหัวใจวาย ต้องระมัดระวังให้ดีด้วย
ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่า ไม่ว่าออกกำลังกายกลางแจ้งหรือในร่ม ผู้สูงอายุต้องมีมาตรการป้องกันความปลอดภัยทั้งนั้น เสื้อผ้าไม่ควรถอดแล้วใส่ ใส่แล้วถอดบ่อยครั้ง เพราะจะทำให้เป็นหวัดได้ง่าย หากมีโรคหัวใจหรือโรคเบาหวาน เป็นต้น ควรทำบัตรติดตัวชิ้นหนึ่ง ซึ่งบันทึกข้อมูลของตน เพื่อความสะดวกในการให้ความช่วยเหลือขณะที่เกิดเหตุฉุกเฉิน หากออกกำลังกายกลางแจ้ง มีเพื่อนอยู่ด้วยจะดีกว่า
เหล่านี้เป็นคำแนะนำเรื่องสุขภาพที่พวกเรารวบรวมจากผู้เชี่ยวชาญ หวังให้ทุกคนมีความสุขกับครอบครัวในช่วงเทศกาลมากขึ้น