ช่วงกว่า 4 ปีนับจากการประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 18 (พฤศจิกายน ปี2012) เป็นต้นมา นายสี จิ้นผิงประธานาธิบดีจีนได้พยายามเล่าเรื่องจีนระหว่างการเยือนต่างประเทศทุกครั้ง
มนต์เสน่ห์ของวัฒนธรรมจีน
วัฒนธรรมจีนแฝงไว้ซึ่งภูมิปัญญาด้านการบริหารประเทศและหลักชี้นำด้านคุณธรรมจริยธรรมมากมาย เป็นพื้นฐานด้านความคิดจิตใจของชาวจีน ระหว่างการเยือนต่างประเทศแต่ละครั้ง นายสี จิ้นผิงจะแสดงให้เห็นมนต์เสน่ห์ของวัฒนธรรมจีน ผลสำเร็จด้านการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างวัฒนธรรมจีนกับวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ ทำให้ชาวโลกมีความรู้ต่อวัฒนธรรมจีนมากขึ้น และมีความเข้าใจค่านิยมและแนวคิดการพัฒนาของจีนมากขึ้น
ปี 2014 ขณะกล่าวสุนทรพจน์ที่วิทยาลัยยุโรปในบรูจส์ นายสี จิ้นผิงกล่าวว่า เมื่อกว่า 2,000 ปีก่อน จีนก็มีนักปรัชญาและนักคิดจำนวนมาก มีผู้ยิ่งใหญ่อย่างเช่นขงจื่อ เหล่าจื่อและม่อจื่อ เป็นต้น ซึ่งได้ศึกษาคิดค้นเรื่องราวต่างๆ จากแผ่นดินถึงท้องฟ้า หารือความสัมพันธ์ระหว่าคนกับคน คนกับสังคม คนกับธรรมชาติ และเสนอแนวคิดที่ลึกซึ้งและกว้างขวาง แนวคิดเช่น ความซื่อสตย์ จงรักคักดี มารยาท ความเมตตา ผู้ปกครองประเทศที่ดีต้องเป็นผู้รักประชาชน เป็นมิตรกับคนอื่นๆ มนุษย์กับธรรมชาติร่วมเป็นหนึ่งเดียวกัน รักษากฎเกณฑ์ธรรมชาติ ใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละ เป็นต้น ทั้งนี้ สิ่งเหล่านี้ได้หยั่งรากลึกในใจของชาวจีนทั่วไป ทำให้ชาวจีนมีค่านิยมที่มีเอกลักษณ์ของตนต่อถึงสังคม ชีวิตและโลก แนวคิดและข้อเสนอในการพัฒนาอย่างสันติของจีน
แน่นอน ระหว่างการเยือนต่างประเทศ เรื่องที่นายสี จิ้นผิงเล่าถึงมากที่สุดก็คือ การพัฒนาที่สันติของจีน โดยได้บรรยายแนวคิดการพัฒนาอย่างสันติของจีนจากมุมมองทางวัฒนธรรม เมื่อปี 2014 ขณะกล่าวสุนทรพจน์ที่คณะกรรมการกิจการโลกอินเดียมีตอนหนึ่งที่กล่าวว่า ประชาชาตจีนรักสันติภาพมาโดยตลอด "สันติภาพ ความปรองดองและความสมานฉันท์" หยั่งรากลึกในจิตใจของชาวจีน คนจีนโบราณมีคำคมว่า "ผู้แข้มแข็งไม่ทำร้ายผู้อ่อนแอ คนรวยไม่เหยียดย่ำคนจน" "ประเทศแข้มแข็งที่ชอบก่อสงครามรุกราน ก็จะล้มเอง" คนจีนยังยึดถือหลักการแนวคิดที่ว่า "ถือสันติภาพเป็นสิ่งมีค่าสูงสุด รักษาสันติภาพและความแตกต่างของกัน ทำให้การใช้อาวุธกลายเป็นการไปมาหาสู่กันและกาค้า ชาวโลกมีความเสมอภาค" เป็นต้น แนวคิดเหล่านี้ ชาวจีนสืบทอดกันมาทุกรุ่น
นายสี จิ้นผิงยังได้บรรยายแนวคิดการพัฒนาอย่างสันติของจีนจากมุมมองในประวัติศาสตร์ ปี 2014 ขณะกล่าวที่วิทยาลัยยุโรปในบรูจส์ นายสี จิ้นผิงชี้ให้เห็นว่า ประชาชนจีนสู้รบกับประเทศที่แข้มแข็งที่มารุกรานจีนเป็นเวลากว่าร้อยปี มีผู้เพลีชีพนับหลายสิบล้านคน สุดท้ายจึงสามารถกุมชะตาชีวิตของตนได้ ประวัติศาสตร์ที่เคยถูกรุกรานและกดขี่ ยังอยู่ในความทรงจำของปะชาชนจีนอย่างชัดเจนและเหมือนกับเรื่องราวที่ผ่านไปไม่นาน ชาวจีนรักชีวิตในปัจจุบัน หวังสันติภาพถาวร ไม่อยากมีสงคราม ดังนั้นจึงดำเนินนโยบายการต่างประเทศที่เป็นตัวของตัวเองอย่างสันติ ไม่แทรกแทรงกิจการภายในของประเทศอื่นๆ และไม่อนุญาตให้คนอื่นมาแทรกแซงกิจการภายในของจีน เมื่อก่อนเราทำตามแนวคิดนี้ และจะทำเช่นนี้ในอนาคตต่อไป
(Yin/lin)