แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ตามเส้นทางรถไฟซีเจียว
เมื่อผู้โดยสารขึ้นรถไฟสายซีเจียวจากจุดเริ่มต้นคือ สถานีปาโกว เพียงป้ายเดียวเท่านั้น ก็จะถึงสถานีรถไฟประตูตะวันตกของพระราชวังฤดูร้อนอี๋เหอหยวน ซึ่งเป็นพระราชอุทยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและถูกอนุรักษ์ไว้อย่างสมบูรณ์มากที่สุดของจีนในปัจจุบัน
พระราชวังอี๋เหอหยวนแต่เดิมเป็นพระราชตำหนักและพระราชอุทยานของจักรพรรดิสมัยราชวงศ์ชิง มีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า ชิงอี่หยวน ภายในพระราชวังฤดูร้อนนี้มีทะเลสาบคุนหมิงหูและภูเขาว่านโซ่วซาน การออกแบบของอุทยานเป็นสไตล์ของสวนในพื้นที่ภาคใต้ของจีนที่มีความสวยงามประณีตทีเดียว ภายในพระราชวังอี๋เหอหยวน มีทางเดินที่เรียกว่า "ซีตี" ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับจักรพรรดิเฉียนหลง เล่ากันว่า พระองค์เคยเสด็จทอดพระเนตรที่เจียงหนานถึง 6 ครั้ง ด้วยทรงชื่นชอบทางเดินซีตีริมทะเลสาบซีหู เมืองหางโจวเป็นพิเศษ จึงมีพระราชโองการให้เลียนแบบก่อสร้างทางเดิน"ซีตี"ภายในพระราชวังอี๋เหอหยวน หลังสร้างเสร็จ ทางเดินสายนี้ ถูกใช้เป็นสถานที่ชมวิวทิวทัศน์ได้ทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นฤดูใบไม้ผลิที่ดอกไม้นานาพันธุ์บานสะพรั่ง ฤดูร้อนมีดอกบัวให้ชม ฤดูใบไม้ร่วงต้นหลิวที่พริ้วไหวอ่อนช้อยเหมือนสาวงาม และฤดูหนาว แม้ใบไม้จะร่วงหมดแล้ว แต่กิ่งไม้ของต้นต่างๆ ก็สวยงามอีกแบบหนึ่ง
พระราชวังอี๋เหอหยวนยังมีทิวทัศน์สวยงามน่าอัศจรรย์และหาชมไม่ได้ในที่อื่น นั่นคือ "แสงอาทิตย์ส่องลอดสะพาน 17 ช่อง" โดยตอนออกแบบก่อสร้างพระราชอุทยานแห่งนี้ สถาปนิกสมัยราชวงศ์ชิงได้ออกแบบสะพานไว้อย่างประณีต โดยให้โค้งของสะพาน 17 ช่องนี้ ทำมุมพอดีกับจุดที่ตะวันตกดินในแนวเส้นละติจูดที่ 23. 27 องศาเหนือ ทำให้เมื่อเข้าสู่เทศกาล "ตงจื้อ" ตามจันทรคติของจีน ที่หมายถึง วันเริ่มย่างเข้าสู่ฤดูหนาว พอถึงช่วงพระอาทิตย์กำลังตกดิน แสงอาทิตย์สีทองจะลอดผ่านโค้งสะพาน 17 ช่อง เกิดเป็นภาพที่งดงามน่าประทับใจมาก ซึ่งปรากฎการณ์นี้จะมีให้เห็นเพียงไม่กี่วันเฉพาะในช่วงฤดูหนาวของแต่ละปี ดังนั้น พอถึงเทศกาลตงจื้อ ก็จะมีนักท่องเที่ยวและช่างภาพจำนวนมากมายแห่กันมาที่พระราชวังอี๋เหอหยวน บางคนมาแต่เช้ามาเฝ้ารอเกือบทั้งวัน ก็เพื่อจะได้ตำแหน่งชมวิวสวยที่สุด
เดือนมกราคมปีนี้ พระราชวังอี๋เหอหยวนได้เปิดลานน้ำแข็งที่มีพื้นที่ถึง 700,000 ตารางเมตรให้กับประชาชนทั่วไป เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันมาสนใจเล่นกีฬาบนพื้นน้ำแข็ง เตรียมพร้อมเพื่อต้อนรับงานกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2022 ที่กรุงปักกิ่งและเมืองจางเจียโข่วร่วมเป็นเจ้าภาพ โดยลานน้ำแข็ง ณ พระราชวังอี๋เหอหยวนแห่งนี้ แบ่งเป็นสองส่วน ได้แก่ ลานน้ำแข็งหลัก ที่บริเวณทะเลสาบคุนหมิงหู และสไลเดอร์น้ำแข็ง ที่บริเวณซีตี นักท่องเที่ยวสามารถเล่นกีฬาบนพื้นน้ำแข็งและชมทิวทัศน์อันสวยงามของพระราชวังอี๋เหอหยวนยามฤดูหนาวไปพร้อมกัน
ต่อจากสถานีรถไฟประตูตะวันตกของพระราชวังอี๋เหอหยวนไปอีก 3 ป้าย จะถึงสวนพฤกษศาสตร์กรุงปักกิ่ง เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่มีพื้นที่ใหญ่สุดในเขตภาคเหนือของจีน ภายในสวนพฤกษศาสตร์มีพืชนานาชนิด ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ว่าจะไปเมื่อไหร่ ในฤดูกาลไหน ก็จะสามารถชมวิวที่สวยงามได้ เช่น เดือนมีนาคมทางสวนจะจัดเทศกาลชมดอกท้อและดอกซากุระที่จะบานสะพรั่ง และเมื่อถึงเดือนเมษายนและพฤษภาคม นักท่องเที่ยวก็จะแห่กันมาชมดอกทิวลิปนานาพันธุ์และดอกโบตั๋น ถ้ามาเที่ยวสวนพฤกษศาสตร์ช่วงฤดูร้อนจะได้ชมดอกเย่ว์จี้ ดอกบัว และดอกเสาเย่าเป็นต้น และเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ทางสวนจะจัดเทศกาลชมดอกทานตะวัน นอกจากนี้แล้ว ภายในสวนพฤกษศาสตร์ยังมีโบราณสถานที่มีชื่อเสียงต่างๆ น่ามาเที่ยวมาก
ป้ายสุดท้ายของเส้นทางรถไฟสายซีเจียวจบลงที่สถานีภูเขาเซียงซาน ภูเขาเซียงซานน่าจะเป็นภูเขาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของกรุงปักกิ่ง เนื่องด้วยมีทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงามและห่างจากตัวเมืองไม่ไกลเกินไป เมื่อก่อนชาวกรุงปักกิ่งมักจะนั่งรถประจำทางหรือขับรถไปเอง แต่ขณะนี้นั่งรถไฟสายซีเจียวยิ่งสะดวกกว่า ไฮไลท์ของภูเขาเซียงซานนี้ ย่อมเป็นทิวทัศน์ใบไม้แดงช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง โดยระหว่างปลายเดือนมิถุนายนจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน จะเป็นช่วงที่เหมาะสำหรับชมใบไม้แดง ในระดับความสูงที่แตกต่างกันไป นักท่องเที่ยวจะได้เห็นใบไม้ที่มีสีสันแตกต่างกันไปด้วย จากสีเหลืองถึงสีแดงอ่อนจนถึงสีแดงเข้มที่ปกคลุมไปทั่วทั้งภูเขา น่าประทับใจมากทีเดียว
(Yim/Zi)