วันเดียวกัน คณะกรรมการสกุลเงินและการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นองค์กรตัดสินนโยบายของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ได้เสร็จสิ้นการประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งที่ 37 ที่กรุงวอชิงตัน นายยี่ กางยื่นแถลงการณ์ที่เป็นลายลักษณ์อักษรต่อที่ประชุมฯ ครั้งนี้ว่า ปี 2017 อัตราวัดภาวะหนี้สิน (Leverage Ratio) ของหน่วยงานนอกภาคการเงินของจีนมีการปรับขึ้นเล็กน้อย อัตราหนี้สินของภาคธุรกิจมีการปรับลดลง ส่วนอัตราหนี้สินของสถาบันการเงินได้รับการควบคุม
นายยี่ กางระบุว่า เวลานี้ เศรษฐกิจจีนมีความแข็งแกร่ง และมีความพร้อมด้วยเครื่องมือทางนโยบายในการป้องกันและควบคุมความเสี่ยงเชิงระบบ จีนจะเดินหน้าปฏิรูปและเปิดเสรีทางการเงิน ผ่อนปรนข้อจำกัดในการอนุมัติการเข้าตลาดอีกขั้น สร้างบรรยากาศการลงทุนให้มีแรงดึงดูดมากขึ้น เพิ่มการคุ้มครองสิทธิทรัพย์สินทางปัญหา และนำเข้าจากต่างประเทศมากขึ้น
สำหรับข้อพิพาททางการค้านั้น ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนระบุว่า ทุกฝ่ายควรให้ความร่วมมือแบบพหุภาคีและประสานงานด้านนโยบายมากขึ้น รักษาระบบการค้าพหุภาคีที่เสรีและตามกฎเกณฑ์ เพื่อนำไปใช้ในการแก้ไขข้อพิพาททางการค้า ให้การค้าและการลงทุนของโลกเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น
นายยี่ กางระบุว่า จีนจะสนับสนุนการค้าพหุภาคีภายใต้กรอบพหุภาคีและองค์การค้าโลกที่มีกฎเกณฑ์และเปิดเสรี อีกทั้งจะเพิ่มความร่วมมือกับทุกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง
การประชุมคณะกรรมการสกุลเงินและการเงินระหว่างประเทศจัดประชุม 2 ครั้งต่อปี เพื่อหารือสถานการณ์เศรษฐกิจโลก และเสนอข้อคิดเห็นต่องานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ
(BO/LING)