นายเบรดี้ วิลเลียม ฟ๊อคส์(BRADY WILLIAM FOX) ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการบริหารภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของแคนาดากล่าวขณะให้สัมภาษณ์เว็บไซต์ CRI Online ของส่านซีว่า
"จีนก้าวสู่ระดับสากลมากขึ้น เป็นผู้ริเริ่มที่มีกำลังสร้างสรรค์ ไม่ว่าในกลุ่มจี20 ธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชียหรือ AIIB และข้อริเริ่มโครงการ หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง จีนล้วนแสดงบทบาทสำคัญ และเชื่อว่าประเทศต่างๆ จะมองเห็นคุณประโยชน์จากสิ่งที่จีนสร้างขึ้นเพื่อการพัฒนาทั่วโลก"
ถ่ายภาพหมู่หน้าหอแสดง
งานมหกรรมเส้นทางสายไหมครั้งที่ 3 เป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญของส่านซีในการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ที่เป็นสากล และเป็นรูปแบบการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีน กับประเทศตามรายทางแถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหม ประเด็นหลักของการเยือนครั้งนี้คือ "โฟกัสจุดเริ่มต้นเส้นทางสายไหม สัมผัสวัฒนธรรมส่านซี" สมาชิกของคณะนักข่าวที่มาจากประเทศต่างๆ ตามรายทางเส้นทางสายไหมจะใช้ความรู้ ความสามารถในการมองเห็นและสัมผัสการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาของมณฑลส่านซีในช่วง 40 ปีที่จีนดำเนินการปฏิรูปและเปิดประเทศ ตลอดจนผลงานในช่วง 5 ปีตั้งแต่เสนอข้อริเริ่ม "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง"
สมาชิกคณะเข้าชมหอแสดงของงานมหกรรม
หวู ธี หยุง (VU THI DUNG) นักข่าวเวียดนามสัมภาษณ์ผู้รับผิดชอบบูธการคมนาคมแชร์ใช้
หวู ธี หยุง (VU THI DUNG) นักข่าวเวียดนามกล่าวว่า งานมหกรรมในครั้งนี้ มีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีระดับสูงในด้านต่างๆ เช่นรถยนต์ การบิน อุปกรณ์และการผลิตอัจฉริยะ รวมถึงอุปกรณ์การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นต้น ทำให้รู้สึกว่าเมืองซีอาน กลายเป็นเมืองสากลที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
นายไอนาร์ ฮานส์ แทนเก้น (EINAR HANS TANGEN) ผู้เชี่ยวชาญการเมืองระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ CRI Online ของส่านซีว่า "จีนพยายามสร้างโอกาสใหม่ เพื่อส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาอย่างสันติของโลกมาโดยตลอด คราวนี้มีโอกาสเดินทางมาถึงเมืองโบราณซีอานที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนาน เยี่ยมชมมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม สัมผัสมนต์เสน่ห์ของเมืองนี้ด้วยตนเอง ค้นหาแก่นแท้ของเมืองนี้ เป็นเรื่องที่มีความหมายอย่างมาก"