คำกำชับจากมารดา
ซื่อสัตย์ต่อชาติบ้านเมือง
สี จิ้นผิงยึดมั่นในคำสั่งสอนของครอบครัวมาโดยตลอด ความรับผิดชอบที่มีต่อประเทศชาติค่อยๆ พัฒนาก่อตัวขึ้นในครอบครัว
สี จิ้นผิงมักจะหวนรำลึกความทรงจำเมื่อครั้งสมัยเด็กที่อยู่กับมารดา เขาเคยเล่าว่า ตอนที่อายุ 5-6 ขวบ มารดาทำงานที่โรงเรียนคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ระหว่างทางมีร้านหนังสือแห่งหนึ่ง บางทีเขาขี้เกียจเดิน มารดาก็แบกเขาขึ้นหลัง และซื้อหนังสืออ่านเล่นให้ด้วย หนึ่งในนั้นเป็นเรื่องวีรบุรุษเย่ว์เฟย(งักฮุย) มารดาเลาว่าเย่ว์เฟยเป็นผู้ที่มีรักซื่อสัตย์ต่อประเทศมาก มารดาเย่ว์เฟยได้สักตัวหนังสือไว้บนหลังเขาว่า "ภักดีประเทศชาติ" สี จิ้นผิง ซึ่งยังเป็นเด็กน้อยคิดเพียงว่า สักตัวอักษรบนผิวหนังคงจะเจ็บมากทีเดียว ซึ่งมารดาก็บอกว่า ต้องเจ็บแน่และก็คงจดจำขึ้นใจไม่ลืมด้วยว่าต้องซื่อสัตย์ต่อชาติบ้านเมือง ตั้งแต่นั้นมา สี จิ้นผิงก็จดจำคำสอนดังกล่าวไว้ และกลายเป็นจุดมุ่งหมายของเขามาตลอด
คำเตือนจากมารดา
ปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด
ฉี ซิน ผู้เป็นมารดาของสี จิ้นผิง ให้ความสำคัญกับการอบรมสั่งสอนบุตรมาก ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อการเติบโตของสี จิ้นผิง เธอมักจะเขียนจดหมายถึงสี จิ้นผิง ซึ่งเริ่มดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำแล้ว และคอยเตือนว่ายิ่งมีตำแหน่งสูงยิ่งอันตราย เตือนให้เขาปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด หลังจากสี จิ้นผิงเริ่มดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำ ฉี ซินเคยเรียกประชุมครอบครัว กำชับลูกทุกคนของตนว่าห้ามประกอบธุรกิจในวงการที่สี จิ้นผิงรับผิดชอบ
เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากบิดามารดาตั้งแต่เด็ก สี จิ้นผิงก็ตั้งมาตรฐานสูงกับครอบครัวของตน หลังจากดำรงตำแหน่งผู้นำ ทุกสถานที่ที่เขาไปทำงาน เขาก็จะเตือนญาติมิตรว่า ไม่ให้ประกอบกิจการทางพาณิชย์ใดๆ ในสถานที่ที่เขารับผิดชอบ ไม่ให้ทำกิจการใดๆ ในนามของเขา ไม่ว่าไปทำงานที่มณฑลฝูเจี้ยน มณฑลเจ้อเจียง หรือนครเซี่ยงไฮ้ เขาก็จะแสดงท่าทีเปิดเผยในที่ประชุมว่า ไม่ยอมให้ใครมาแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวโดยอ้างอิทธิพลของเขา และยินดีให้ทุกคนตรวจสอบด้วย