"บุพเพสันนิวาส" เป็นละครไทยย้อนยุคที่มีกระแสการตอบรับมากที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งในด้านเรตติ้งการรับชมทางโทรทัศน์ กระแส "ออเจ้า" บนโลกออนไลน์ รวมไปถึงความนิยมการใส่ชุดไทย และท่องเที่ยวยังเมืองเก่าของไทยอย่างอยุธยา
ไม่เพียงแต่จะประสบความสำเร็จในประเทศไทย ไม่นานหลังจากละครเรื่องนี้เริ่มเป็นออกอากาศในประเทศ "บุพเพสันนิวาส" ได้โด่งดังไปยังประเทศเพื่อนบ้านของไทย รวมทั้งไปถึงจีนด้วย
ในประเทศจีนกระแสละครเรื่อง "บุพเพสันนิวาส" ยังคงมีอย่างเนื่อง โดยชื่อของละครเรื่องนี้ขึ้นถึงอันดับ 14 แฮชแท็กยอดนิยมในหมวดละคร บน Weibo สื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยมของจีน มีคนเข้าอ่าน แฮชแท็ก ละครเรื่องบุพเพสันนิวาส ในเวยโปกว่า 4 ร้อยล้านวิว ขณะที่การถ่ายทอดสดละคร บุพเพสันนิวาส พร้อมกับที่ไทยผ่านอินเทอร์เน็ตในประเทศจีนมีจำนวนผู้ชมสูงสุดมากถึงหลักแสนคน
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า ละครบุพเพสันนิวาส เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในประเทศจีน ถือเป็นละครโทรทัศน์ต่างประเทศยอดนิยมในจีนก็ว่าได้ เพราะครองอันดับแรกในเรตติ้งออนไลน์เป็นระยะเวลายาวนานที่สุดในจีน
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ในเทศกาลวัฒนธรรมนานาชาติประจำปีของมหาวิทยาลัยชิงหวา มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน มีการจัดนิทรรศการ "บุพเพสันนิวาส" บรรดานักศึกษาต่างพากันไปถ่ายรูปกับสแตนดี้ตัวละคร อย่างแม่หญิงการะเกด และพี่หมื่น นอกจากนี้วันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา สถานทูตไทยประจำกรุงปักกิ่งยังได้จัดเทศกาลอาหารไทยที่สถานทูต โดยเชิญชวนให้ผู้ที่มาร่วมงานแต่งชุดไทย และใช้เพลงประกอบละคร "บุพเพสันนิวาส" เป็นสื่อประชาสัมพันธ์งาน ด้านภาคภาษาไทย ของซีอาร์ไอก็ได้รับกระแสตอบรับจากผู้ฟังด้วย
คุณนภา อตมกุลศรี ผู้ฟังซีอาร์ไอรุ่นอาวุโสซึ่งติดตามรับฟังรายการของซีอาร์ไอมาเป็นเวลาถึง 20 ปี ได้ส่งอีเมลมายังสถานี พร้อมกับให้ความเห็นว่า "ละครบุพเพสันนิวาสเป็นกระแสอย่างมาก คงเป็นเพราะว่า ทุกคนแสดงได้ดี เครื่องแต่งกายที่เหมาะสม บทเพลงที่ไพเราะ และบทละครก็ดี การตัดต่อภาพที่ดีด้วย มีสื่อโซเชียลช่วยหนุน การนำประวัติศาสตร์และสังคมปัจจุบันมาบรรจบกันอีก คำพูดที่ทันสมัยกับคำพูดสมัยก่อนต่างกัน ทำให้น่าสนใจ มีความรักที่มั่นคงมาช่วยส่งเสริม ซึ่งปัจจุบันหาความรักที่แท้จริงยากมาก ๆ แล้ว นภาคิดว่าทุกอย่างพอดีเหมาะสมกัน ไม่เหมือนละครบางเรื่องที่เขาเรียกว่าน้ำเน่า คือ ไม่แย่งผู้ชาย ก็แย่งผู้หญิง แล้วนางร้ายก็ร้องกรี๊ด ๆ เสียงดัง ซึ่งนภาก็ไม่ดูค่ะ"
เมื่อผู้ชมจีนได้ดูละครบุพเพสันนิวาสจบแล้ว หลายคนบอกว่า อยากไปเที่ยวเมืองไทย อยากเรียนภาษาไทย บางคนก็อยากเรียนประวัติศาสตร์ไทย แต่ติดตรงที่ว่าไม่เข้าใจภาษาไทย ยิ่งไปกว่านั้น หนุ่มสาวบางคนที่ทีแรกตั้งใจจะครองตัวเป็นโสด แต่จากกระแสละครทำให้พวกเขาเปลี่ยนใจอยากหาแฟนแต่งงานกับเขาบ้าง
สถิติจาก Microblog ของ Sina สื่อสังคมออนไลน์ด้านบันเทิงที่ได้รับความนิยมของจีน ระบุว่า ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ละครเรื่องนี้เปิดฉายออนไลน์ มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตชาวจีนร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับละครบุพเพสันนิวาสรวมแล้วคิดเป็นจำนวนถึงหลักร้อยล้านความเห็น โดยต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ละครเรื่องบุพเพสันนิวาส เป็นละครไทยอีกเรื่องหนึ่งที่น่าชื่นชมและน่าติดตามเป็นอย่างมาก
เจ้าของ Microblog Sina ชื่อ จาง ฉางโหย่ว ลงข้อความว่า ประทับใจความอยากรู้อยากเห็นของนางเอก ซึ่งนิยมตั้งคำถาม "ทำไม" บ่อย ๆ เธอไม่ได้ใช้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ตามใจชอบ กลับวางตัวเป็นนักสังเกตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ทำให้ผู้ชมตระหนักถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ น่ารักมาก
เจ้าของ Microblog Sina ที่ชื่อ "หย่วนซานโป๋มู่" หรือว่า หมอกจาง ๆ ที่ปกคลุมภูเขาเห็นอยู่ไกล ๆ ให้ความเห็นว่า การที่กระแสของละครบุพเพสันนิวาสมาแรงนั้นเป็นเพราะ สามารถเรียนรู้ชีวิตความเป็นอยู่ในสมัยโบราณของไทยได้อย่างรอบด้าน เวลานั้น บ้านเมืองไทยมีทัศนียภาพอันสวยงามเหมือนภาพวาด ชาวบ้านพายเรือเป็นยานพาหนะ ล่องไปตามแม่น้ำลำคลองต่าง ๆ อย่างสบาย ๆ ไม่เร่งรีบ ส่วนตัวละครในละครเรื่องนี้ต่างมีเอกลักษณ์ประจำตัว และมีจิตใจรักบ้านเมือง รักครอบครัว ให้ความจริงใจและให้ความอบอุ่นแก่กันและกัน ทั้งหมดนี้ถือเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชม นอกจากนี้ ละครเรื่องนี้ยังมอบความโรแมนติก บริสุทธิ์ และความหวานชื่นให้แก่ผู้ชม ซึ่งเมื่อใดที่ผู้ชมนึกถึง ก็ทำให้ยิ้มได้เมื่อนั้น
เจ้าของ Microblog Sina ชื่อ "เวเหว่ยซวี่เฟย" หรือว่า ปุยต้นอ้อพริ้วไหวได้แสดงความเห็นว่า ละครเรื่องบุพเพสันนิวาส นำเสนอภาพย้อนไปในอดีต ทั้งการใช้ชีวิตอย่างอยู่เย็นเป็นสุข และความใกล้ชิดกับธรรมชาติ วัดวาอารามที่มีสีทองอร่ามตา ตลาดอันเรียบง่าย ความวิจิตงดงามของเรือนไทย และความพิถีพิถันในเสื้อผ้าอาภรณ์ รวมแล้วช่างน่าอัศจรรย์จริง ๆ ชมแล้วก็สามารถช่วยบรรเทาความวุ่นวายในใจที่เกิดขึ้นจากวิถีชีวิตในทุกวันนี้ลงได้ นอกจากนี้ ฝีมือการแสดงของนักแสดงไทยนั้นไม่ธรรมดา น่าชื่นชมจริง ๆ
ด้านเจ้าของ Microblog Sina ชื่อ "เจียวต้าเตอฉีห้วนจือลวี่" หรือว่า การเดินทางที่อัศจรรย์ของเจียวต้า แสดงความเห็นว่า ละคร บุพเพสันติวาส มีการสอดแทรกแง่คิดต่าง ๆ ให้กับผู้ชม โดยเฉพาะมีคติสอนใจเกี่ยวกับความรักและการครองคู่เป็นอย่างดี ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความเชื่อซึ่งเราสามารถเรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีไทยได้จากละครเรื่องนี้
นอกจากนี้ พระเอกยังมีหน้าตาหล่อเหลา ชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้แฟนหล่อเหมือนพระเอกในละครแล้ว ได้แต่หวังเพียงว่าจะได้ลูกชายหน้าตาหล่อเหมือนพระเอกบ้าง ฮาฮาฮา
ชาวเน็ตที่ใช้ชื่อ "ตี๋เซิงโยหยาง" หรือว่า เสียงขลุ่ยอันเราะน่าฟังได้โพสต์ข้อความว่า ไม่เคยเรียนภาษาไทย ไม่เคยคบกับคนไทย แต่ชอบดูละครไทยมาโดยตลอด อธิบายไม่ถูกจริง ๆ นี่คือเสน่ห์ของละครไทย เธอยังได้แต่งบทกลอนขึ้นมาบทหนึ่งดังมีใจความว่า
"โลกใบนี้มีหลายมิติ ไม่ว่ามนุษย์หรือวัตถุ หากว่าในมิติต่างกัน ไม่สามารถสัมผัส และสื่อสารกันได้ ไม่ทราบว่า ในอดีตกาล ได้เคยเจอหน้าคุณหรือไม่ และก็ไม่แน่ใจว่า ในอนาคต จะสามารถเจอหน้าคุณอีกหรือไม่ แต่ที่แน่ใจคือ ขณะนี้ ในมิติและภพนี้ ฉันเป็นตัวจริง และได้เจอหน้าคุณ"
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส มีชื่อเป็นภาษาจีนว่า "เทียนเซิงอี๋ตุ้ย" "เทียน" มีความหมายว่า ฟ้า "เซิง" หมายความว่า เกิด "อี๋ตุ้ย" หมายความว่า คู่หนึ่ง โดยรวมแล้วจึงมีความหมายว่า ฟ้าให้เกิดมาคู่กัน หรือ บุพเพสันนิวาสนั่นเอง