สถานีวิทยุซีอาร์ไอรายงานว่า สหรัฐฯ เริ่มเรียกเก็บภาษีสินค้าจากจีนในอัตรา 25% คิดเป็นมูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นการประกาศสงครามการค้าต่อจีน ทำให้จีนต้องตอบโต้ในทันที นักเศรษฐศาสตร์จีนหลายคนแสดงความเห็นว่า การก่อสงครามการค้าของสหรัฐฯ ไม่สอดคล้องกับกฎเศรษฐศาสตร์ ซึ่งจะทำลายห่วงโซ่อุตสาหกรรมโลกอย่างร้ายแรง
นายเหมย ซินยี่ว์ นักวิจัยจากสถาบันวิจัยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าของกระทรวงพาณิชย์จีน แสดงความเห็นในการประชุมสัมมนาด้านเศรษฐกิจ ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมว่า การที่สหรัฐฯ ก่อสงครามการค้าต่อจีนนั้น ไม่ใช่เพื่อแก้ไขปัญหาขาดดุลทางการค้า แต่เป็นการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์เพื่อยับยั้งการพัฒนาของจีน
เขายังกล่าวว่า หากมองในแง่เศรษฐกิจ การก่อสงครามการค้าของสหรัฐฯครั้งนี้ ไม่สอดคล้องกับกฎเศรษฐกิจ จริงๆ แล้ว แก่นแท้ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ คือ สหรัฐฯ ที่เป็นประเทศมหาอำนาจอยู่แล้วจะยับยั้งจีน ประเทศที่กำลังพัฒนาเติบโตขึ้น สงครามการค้าครั้งนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่า นโยบายยับยั้งจีนที่สหรัฐฯ ดำเนินมาหลายสิบปีแล้วนั้นประสบความล้มเหลว และขณะนี้ การยับยั้งจีนของสหรัฐฯได้เข้าสู่รูปแบบใหม่
(bo/cai)