จากการที่รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศว่าจะเพิ่มการเก็บภาษีอีก 25% จากสินค้าที่นำเข้าจากประเทศจีนที่มีมูลค่าถึง 16,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคมนี้ ทำให้ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯเพิ่มความตึงเครียดขึ้นอีกระดับ ในขณะที่นักธุรกิจในแวดวงเศรษฐกิจของเยอรมันต่างแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ว่า จะคอยติดตามความคืบหน้า และไม่เห็นด้วยกับนโยบายการกีดกันทางการค้านี้อย่างมาก

ดร.เจอร์เกน เฟรดเดอริช (Jürgen Friedrich) ผู้อำนวยการองค์กรส่งเสริมการค้าและการลงทุนแห่งเยอรมนี (GTAI) กล่าวว่า จีนและเยอรมันต่างประเทศเศรษฐกิจที่สำคัญ และเป็นประเทศใหญ่ทางด้านการค้าและการลงทุน สมควรที่จะร่วมมือกันรับความท้าทายและรักษาระบบการค้าแบบพหุภาคี ส่งเสริมการค้าเสรีและการเปิดตลาดสู่ภายนอก ตลอดจนการขับเคลื่อนการเปิดประเทศและการลงทุนระหว่างกัน

นายเฮลมุด มาสเคอร์ (Helmut Maschke) ประธานและCEO ของบริษัท Air Liquide Global E&C Solutions Germany กล่าวว่า การที่เขาให้ความสนใจต่อปัญหาความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯนั้น ก็เพราะว่า จีนเป็นหุ้นส่วนสำคัญของเยอรมัน ปัจจุบัน การติดต่อระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งสองฝ่ายมีมากขึ้น และขอบเขตความร่วมมือก็ได้ขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ล้วนแสดงให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-เยอรมันกำลังเป็นไปด้วยดี (Bo/Zi/Zheng)