เมื่อเดือนมีนาคม ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ประกาศรายงานตรวจสอบ 301 หลังจากนั้นสหรัฐฯ ก็เริ่มประกาศสงครามการค้ากับจีน แต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ หอการค้าจีนในสหรัฐฯ ประกาศ "รายงานว่าด้วยการตรวจสอบสภาพการทำธุรกิจในจีนปี 2018" ระบุว่า ในปี 2017 บริษัทสหรัฐฯ ในจีนมี 73% สามารถสร้างผลกำไร และมีบริษัทสหรัฐ 74% มีแผนจะขยายธุรกิจในจีน มีบริษัทที่เป็นสมาชิกหอการค้า 30% ถือจีนเป็นประเทศลงทุนใน 3 อันดับแรก มีบริษัท 46% เห็นว่าจีนจะเปิดตลาดรับทุนต่างชาติในช่วง 3 ปีข้างหน้า และ 62% เห็นว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนมีความโปร่งใสเพิ่มขึ้น และการประสานงานในการกำหนดนโยบาย ทั้งหมดนี้แสดงว่า บริษัทสหรัฐฯ ในจีนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญและมองจีนเป็นตลาดที่ดี

แม้ว่าผลกระทบจากสงครามการค้าจะมีผลที่เป็นลบตามมา แต่รายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า แม้จะได้รับผลกระทบ แต่บริษัททุนต่างชาติยังมีความเชื่อมั่นต่อตลาดจีน ซึ่งความเชื่อมั่นนี้มาจาก 5 ปัจจัยคือ หนึ่ง จีนมีโอกาสการพัฒนาทั้งการผลิตและบริโภค ตามการคาดการณ์ ถึงปี 2030 ชนชั้นกลางทั่วโลกมีประชากร 4,900 ล้านคน ในจำนวนนี้ 2 ใน 3 มาจากเขตเอเชีย และในเอเชียส่วนใหญ่อยู่ในจีน

สอง จีนมีจุดเด่นด้านห่วงโซ่อุตสาหกรรมครบทุกด้าน บริษัททุนต่างชาติสามารถพัฒนาการผลิตอย่างรอบด้าน

สาม ศักยภาพการผลิตขนาดใหญ่ของจีนสามารถหลอมรวมกับนวัตกรรมของประเทศที่พัฒนาแล้ว

สี่ แม้ว่ายังไม่เริ่มเห็นผลกระทบจากสงครามการค้า แต่การที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวจะทำให้จีนมีสถานะดึงดูดการลงทุนที่ดี

ห้า จีนจะเปิดตลาดให้กว้างขึ้นด้วยการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งหมดนี้ ถ้าเศรษฐกิจจีนยังคงดำเนินไปอย่างราบรื่น และมีการหมุนเวียนภายในประเทศอย่างดี ตลาดใหญ่ ที่มีศักยภาพการผลิตที่สมบูรณ์ของจีนจะทำให้ทุนต่างชาติยินดีที่จะเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง

Bo/Lei/Zheng