ข้อสงสัยสำคัญที่สื่อตะวันตกให้ความสนใจที่สุดคือ กับดักหนี้สิน ซึ่งหมายถึงการลงทุนในแอฟริกาของจีนนั้น ทางมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ของสหรัฐฯ เคยมีโครงการวิจัยจีน-แอฟริกาเมื่อปี 2015 และเตือนว่าประเทศแอฟริกาไม่สามารถคืนหนี้สินให้กับจีนได้ แต่ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ โครงการวิจัยดังกล่าวประกาศรายงานอีกชิ้นและระบุว่า เงินกู้ของจีนไม่ใช่ปัจจัยสำคัญของปัญหาหนี้สินแอฟริกา หนี้ของแอฟริกาเกิดขึ้นจากองค์กรการเงินระหว่างประเทศมากมาย มิใช่เกิดขึ้นจากจีนเพียงประเทศเดียว
นอกจากนี้ สื่อตะวันตกที่มักจะรายงานว่า "โครงการลงทุนของจีนไม่ได้สร้างโอกาสทำงานให้กับแอฟริกา" แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ซีเอ็นเอ็นของสหรัฐฯ อ้างสถิติจากบริษัทแม็คคินซีย์ว่า จีนได้สร้างโอกาสการมีงานทำหลายล้านตำแหน่งให้แอฟริกา บริษัทจีนประมาณ 2 ใน 3 ยังจัดการฝึกอบรมเทคนิคให้กับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นด้วย รายงานฉบับนี้ มีการสำรวจบริษัทจีนกว่าพันแห่งใน 8 ประเทศแอฟริกา ผลสำรวจแสดงว่า เจ้าหน้าที่ของบริษัทเหล่านี้มี 89% เป็นชาวแอฟริกัน
สำหรับคำวิจารณ์ที่ว่า "รูปแบบจีนไม่เหมาะกับแอฟริกา" ที่รายงานผ่านเว็บไซต์ไฟแนนเชียลไทมส์เมื่อเร็วๆ นี้นั้น บีบีซีของอังกฤษกลับรายงานว่า รูปแบบจีนมีผู้สนับสนุนมากมายในแอฟริกา โดยอ้างคำกล่าวจากนาย Akinwumi Adesina ประธานกลุ่มธนาคารเพื่อการพัฒนาแอฟริกาว่า แม้ว่ามีคนจำนวนมากมายแสดงความกังวลกับจีน แต่เขาไม่เห็นชอบด้วย เขาเห็นว่าจีนเป็นมิตรของแอฟริกา นอกจากนี้ นักลงทุนของประเทศกานาก็ได้ระบุว่า แอฟริกาได้รับผลประโยชน์มากมายจากการค้า การลงทุนและความร่วมมือทางการเงินจากจีน มีโครงการสร้างประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย ซึ่งโครงการเหล่านี้ ไม่ต้องมีเงื่อนไขเพิ่มเติมเหมือนกับดำเนินความร่วมมือกับประเทศตะวันตก
แม้ว่าชาติตะวันตกจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาเกี่ยวกับความร่วมมือจีน-แอฟริกา แต่จีนเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือระหว่างจีนกับแอฟริกาดีหรือไม่นั้น มีเพียงประชาชนจีนและแอฟริกาเท่านั้นเป็นผู้มีสิทธิ์ออกเสียง ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถคิดจินตนาการเองเองหรือปฏิเสธผลงานอันยอดเยี่ยมระหว่างจีนกับแอฟริกาได้ ดั่งเช่นที่นายโจเซฟ สตีกลีทตซ์ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า การประณามจีนของฝ่ายตะวันตกนั้น เป็นความคิดแบบนิทานเรื่องสุนัขจิ้งจอกกับ "องุ่นเปรี้ยว"
Yim/Ping/Cai