สำนักข่าวซินหวา รายงานว่า ระหว่างวันที่ 11 - 12 กันยายนที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้เดินทางเข้าร่วมการประชุมเศรษฐกิจตะวันออก ครั้งที่ 4 ที่รัสเซียตามคำเชิญ และได้ร่วมมือกับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย กำหนดแผนการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-รัสเซียในยุคใหม่ อีกทั้งร่วมมือกับฝ่ายต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนืออภิปรายแผนการพัฒนาและสันติภาพในภูมิภาค ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการต่างประเทศ เช่น รัสเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และมองโกเลีย ต่างเห็นว่า การเข้าร่วมการประชุมของนายสี จิ้นผิงครั้งนี้ เป็นการเสริมแรงกระตุ้นใหม่ให้กับความสัมพันธ์ระหว่างจีน-รัสเซีย และถือเป็นการเปิดอนาคตใหม่ให้กับความร่วมมือในภูมิภาค
ระหว่างการเยือน นายสี จิ้นผิง และนายปูติน ได้วางแผนทิศทางการพัฒนาความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมระหว่างสองประเทศในขั้นตอนต่อไป รวมทั้งอภิปรายแผนปฏิบัติการเชื่อมต่อเชิงยุทธศาสตร์การพัฒนาสหพันธ์เศรษฐกิจยุโรป-เอเชีย และการร่วมกันพัฒนา "1 แถบ 1 เส้นทาง" ตลอดจนผลักดันความร่วมมือการพัฒนาความได้เปรียบในความสัมพันธ์ทางการเมืองระดับสูงให้เติบโตและเป็นผลงานความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
นายอันเดร โอสตรอฟสกี รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยตะวันออกไกล สภาวิทยาศาสตร์รัสเซีย กล่าวว่า การพบปะระหว่างผู้นำรัสเซียและจีน จะส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ด้านต่าง ๆ ระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะจะกระตุ้นให้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าแบบพหุภาคีก้าวไปสู่ระดับใหม่ ใช้การพัฒนา "1 แถบ 1 เส้นทาง" จะทำให้รัสเซียสามารถส่งเสริมตัวเองโดยเฉพาะเขตตะวันออกไกลให้ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน สร้างเงื่อนไขที่ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างรัสเซีย-จีนได้รับการพัฒนาอย่างเพียงพอ
ด้านนายฮิเดโตซิ ทาซิโร นักเศรษฐศาสตร์ญี่ปุ่น กล่าวว่า ประเทศต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือควรส่งเสริมความร่วมมือซึ่งเป็นผลดีต่อความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค การร่วมมือของญี่ปุ่น-จีนภายในภูมิภาค จะสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
นางอัน ยู-ฮวา ศาสตราจารย์ด้านการเงิน สถาบันจีนศึกษา มหาวิทยาลัยซุงคยุนกวาน ของเกาเหลีใต้ กล่าวว่า เข้าร่วมการประชุมเศรษฐกิจตะวันออก ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ส่งสัญญาณว่า จีนจะยืนหยัดการเปิดประเทศสู่ภายนอก รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค
ด้านนายบายาร์ฮู อดีตทูตานุทูต ผู้เชี่ยวชาญปัญหาระหว่างประเทศจากมองโกเลีย กล่าวว่า การกล่าวคำปราศรัยของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ส่งสัญญาณหนึ่งอย่างชัดเจนว่า จีนให้ความสำคัญและสนับสนุนเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือทุกด้านให้พัฒนาร่วมกัน ทั้งนี้เป็นโอกาสที่หายากสำหรับประเทศจำนวนมากซึ่งรวมทั้งมองโกเลียเองด้วย
(Tim/zheng)