เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นายเพนส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศหนังสือประณามจีน โดยใส่หมวกแก่จีนว่า "แทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ท้าทายระบบระเบียบสากล คุกคามความมั่นคงเขตช่องแคบซานเสีย" ระยะหลังๆ นี้ ทหารสหรัฐฯ ก็แสดงตัวในปัญหาที่เกี่ยวข้องกับไต้หวันบ่อยครั้ง การกระทำเหล่านี้ย่อมจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน กระทั่งอาจจะสร้างภาวะอันตรายด้วย การที่ทางการช่าย อิงเหวินของไต้หวันตอบรับอย่างแข็งขัน ทำให้ไต้หวันตกเข้าสู่แถบอันตราย
การที่สหรัฐฯ เน้นปัญหาไต้หวันเป็นการโยกย้ายความขัดแย้งภายใน และบุกเบิกสนามรบใหม่ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ รัฐบาลสหรัฐฯ ทำเช่นนี้ก็เพราะว่า กำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้งระยะกลาง สถานการณ์การเมืองภายในประเทศสลับซับซ้อน จนทำให้เกิดความกังวลทางการเมือง
สื่อสหรัฐฯ AXIOS รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังวางแผนต่อต้านจีนขนาดใหญ่ รวมถึงใช้การ "แทรกแซงการเลือกตั้ง" มาโจมตีจีน นิตยาสาร "นโยบายการต่างประเทศ"ของสหรัฐฯ ระบุว่า ทหารสหรัฐฯ จะจัดงบประมาณ 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในการเปลี่ยนรูปแบบทางยุทธศาสตร์ที่มีต่อจีน ขณะนี้ ยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ที่มีต่อจีนกำลังเลยวิธีการ "ติดต่อ ยับยั้ง" เข้าสู่สภาวะ "การแข่งขันในทุกด้าน"ที่ควบคุมและรักษาความสมดุลทางการเมือง จำกัดด้วยกฎเกณฑ์ ล้อมและอุดตันทางการต่างประเทศ กดดันทางเศรษฐกิจและเตรียมตัวทางการทหาร
สหรัฐฯไม่ใช่ผู้คุ้มกันของไต้หวัน นางช่ายอิงเหวินเข้าข้างสหรัฐฯ จะปิดทางของตนเอง จาก "โทรศัพท์คุยระหว่างนายทรัมป์กับนางช่ายอิงเหวิน"ภายหลังนายทรัมป์เข้าสู่ทำเนียบขาว จนถึงการลงนาม "กฎหมายการไปมาหาสู่กับไต้หวัน" "กฎหมายการมอบอำนาจการป้องกันประเทศ"ที่มีจุดประสงค์จะยกระดับการแลกเปลี่ยนสหรัฐฯ-ไต้หวันและ "ความสัมพันธ์เชิงเนื้อแท้"ระหว่างสองฝ่าย ตลอดจนประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ว่า จะ "ยุทธศาสตร์อินเดีย-แปซิฟิก"จะรับไต้หวันเข้าร่วม การแลกเปลี่ยนระหว่างทำเนียบขาวกับไตเปดูคึกคักมากในช่วงสองปีมานี้
รัฐบาลทรัมป์ขึ้นดำรงตำแหน่งยังไม่ถึง 2 ปี ก็อนุมัติแผนการขายอาวุธให้แก่ไต้หวัน 2 ราย พยายามให้การขายอาวุธแก่ไต้หวันเป็น "ภาวะปกติ"กับอุตสาหกรรมทางทหารผสมผสานกัน วงการการเมืองของสหรัฐฯ เรียกร้องให้ส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้ากับไต้หวัน เร่งรัดให้ไต้หวันเปิดตลาดให้กับเนื้อหมูและเนื้อวัวของสหรัฐฯ และสั่งซื้อผลิตผลการเกษตรของสหรัฐฯ ทั้งนี้ก็เพื่อเก็บค่าคุ้มกันจากไต้หวันนั่นเอง ความจริง นโยบายต่อไต้หวันของรัฐบาลทรัมป์ก็คือ ให้ไต้หวันสนองวัตถุเพื่อผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ตลอดจน "ความร่วมมือทางการเมือง"
Bo/LR/Zhou