ผู้สื่อข่าว: สวัสดีค่ะ อาจารย์ประพจน์ และอาจารย์ฟู่
ดร.ประพจน์: สวัสดีครับ
อ.ฟู่: สวัสดีครับ
ผู้สื่อข่าว: ขอให้ทบทวนผลการตามเสด็จฯ รับรางวัล ๑๐ อันดับมิตรชาวต่างชาติของจีนในครั้งนี้ให้หน่อยค่ะ
ดร.ประพจน์: การเสด็จครั้งนี้ก็เรียกว่าเป็นการรีบร้อนอย่างหนึ่ง เพราะว่าพระราชกิจค่อนข้างเยอะ เมื่อเวลาที่ทราบข่าวว่าได้รับรางวัลจริงๆ แล้วเป็นการทราบข่าวแบบอ้อมโลกนิดหน่อย เพราะว่าพระสหายท่านหนึ่งที่อยู่ที่ฮาวาย บอกไปว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้น แสดงความยินดีมาว่า ท่านทรงได้รับการลงคะแนนเสียงให้เป็นมิตรที่ดีที่สุดของโลกในรอบ 100 ปี ติดเป็น 1 ใน 10
ตอนหลังก็พูดถึงการที่จะเสด็จมารับรางวัลจะทำอย่างไร ต้องย้ายกำหนดการอะไรกันพอสมควร ที่จริง เดิมตั้งพระทัยจะทอดพระเนตรงานที่ จ.ชัยภูมิ คือ เป็นงานของเราเอง เป็นกันเอง สามารถย้ายได้ ก็รีบย้าย และก็ต้องรีบเสด็จกลับภายในวันเดียว
ข้อสำคัญอันหนึ่งที่เห็นคือ ทรงเห็นว่า การรับรางวัลครั้งนี้ เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะว่า เป็นสิ่งที่คนจีนโดยทั่วไปจริงๆ เป็นคนที่ลงคะแนนเสียงให้ ทรงเห็นว่าเป็นวิธีการอันดีมากที่จะแสดงให้เห็นว่า คนจีนเห็นว่าใครเป็นมิตร คนจีนมีความคิดอย่างไรเกี่ยวกับมิตรภาพ หรือว่า คิดอย่างไรเกี่ยวกับในส่วนของประเทศตัวเองด้วย เพราะว่า จะสังเกตแล้วจะเห็นว่า เราก็ตั้งคำถามไว้หลายคำถาม เพราะว่า ดูรายชื่อผู้ได้รับรางวัลอันดับ 1-10 ก็บอกว่า เสียชีวิตไปแล้ว 7 มีชีวิตอยู่ 3 ก็เป็นคนที่อายุมากเกือบทั้งหมด ก็อาจจะพระเทพฯ อายุน้อยที่สุด ผู้ที่ได้รางวัลที่อายุมาก เป็นเพราะว่า ผู้ที่มาลงคะแนนมีอายุมาก หมายความว่า เป็นคนที่เคยรู้จักพวกเขา ซึ่งก็ต้องมีอายุอยู่ประมาณ 70-80 ส่วนมากคือ อยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือต่อเกือบๆ จะถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 นี่เป็นเรื่องที่คุยกันในระหว่างที่พูดถึงรางวัลนี้ บอกว่า ถ้าหากไม่ใช่ผู้ที่มีอายุสูง เป็นผู้ลงคะแนนเสียงเป็นผู้ที่อายุรองลงมา คือ อาจจะรุ่น 40-30-20 ก็หมายความว่า ประเทศจีนสอนประวัติศาสตร์ได้ดีมาก ดี
ไม่ใช่ในแง่ว่าให้รู้ประวัติศาสตร์ตัวเองอย่างเดียว ดีไปจนให้รู้ว่า ใครบ้างที่เป็นมิตรมาช่วยเหลือในเวลาตกทุกข์ได้ยาก
และอันหนึ่งที่แสดงให้เห็นแน่ชัดก็คือว่า คุณธรรมพื้นฐานอย่างเช่นที่ขงจื่อสอน ก็คือ ความกตัญญูรู้คุณ ที่เห็นชัดเจน เพราะผู้ที่ลงคะแนนเสียงให้มิตรประเทศ หรือมิตรที่ลงคะแนนเสียงให้เนี่ย เป็นมิตรผู้ที่มาช่วยคนจีนในเวลายามยาก
และก็อีกอันหนึ่งที่เห็นคือ ความสัมพันธ์ทาง
วัฒนธรรมในกรณีสมเด็จพระเทพฯ คนลงคะแนนเสียงในฐานะมิตรทางวัฒนธรรม สนใจจีนจริงๆ เห็นประเทศจีนดีจริงๆ ทุกด้าน เข้ามาศึกษายกย่องวัฒนธรรมจีน เป็นเรื่องของความรู้คุณในลักษณะซึ่งวางอยู่ในที่ที่ถูก คือ วางเป็นสิ่งที่เกี่ยวกับประเทศของตัว หรือวัฒนธรรม อารยธรรมของตัว ไม่ได้มุ่งประเด็น จริงๆ ให้แก่ปัจเจกบุคคลก็จริง แต่ว่าให้ด้วยเหตุผลของชาติเป็นหลัก ไม่ได้ให้ด้วยเหตุผลส่วนตัว อันนี้เป็นสิ่งหนึ่ง ซึ่งอาจจะเรียกว่า ประเทศจีน หรือคนจีนมีลักษณะพิเศษ
